รูปจาก

http://www.matichon.co.th/news/315817

วันนี้ (7 เมษายน 2560) มีพิธีเปิดตัวหนังสือ" สี จิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ "ฉบับภาษาไทยที่กรุงเทพมหานคร โดยศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายเจี่ยง เจี้ยนกั๋ว รองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์พรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้เกียรติร่วมพิธีเปิด

หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมคำกล่าว บันทึก จดหมายแสดงความยินดีของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2012 ถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ.2014 รวม 79 บท ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้ได้พิมพ์จำหน่ายด้วย 16 ภาษาของโลกรวมแล้ว 6.2 ล้านเล่ม หนังสือเล่มนี้จะทำให้เข้าใจถึงแนวคิดในการบริหารประเทศ สัมผัสวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับแนวคิดในการบริหารประเทศ สัมผัสถึงความรักอันลึกซึ้งของประธานาธิบดีสี จิ้นผิ้งที่มีต่อวัฒนธรรมประชาชาติจีน เข้าใจความรู้สึกที่สนใจและใส่ใจประชาชนจีน เข้าใจถึงความเชื่อมั่นอย่างสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่มีต่อวัฒนธรรมสังคมนิยมอันทันสมัย ตลอดจนความสนใจและความคิดคำนึงที่มีต่อประชาคมร่วมทุกข์ร่วมสุข

ตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เมื่อปีค.ศ.2012 เป็นต้นมา สถานการณ์การพัฒนาของจีนเปลี่ยนโฉมใหม่หมด การเมืองมั่นคง เศรษฐกิจรุ่งเรือง สังคมสมานฉันท์ วัฒนธรรมเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ปีที่แล้ว(ค.ศ.2016) ยอดจีดีพีของจีน 11 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตร้อยละ 6.7 ยังคงอยู่อันดับสองของโลก เศรษฐกิจจีนมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกกว่าร้อยละ 30 ผลงานเหล่านี้มาจากการชี้นำความคิดในการบริหารประเทศของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

คุณพัลลภ สามสี บรรณาธิการสำนักพิมพ์มติชน ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือเล่มนี้ ในอดีตเคยทำงานในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำภาคภาษาไทย สถานีวิทยุซีอาร์ไอ ที่กรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ไม่ใช่คนไทยอย่างเดียว ทั่วโลกก็จับตามองสี จิ้นผิง ในฐานะผู้นำจีนยุคใหม่ที่กำลังจะก้าวไปสู่ช่วงการเปลี่ยแปลงใหญ่ของจีน แล้วก็เรื่องการปราบปรามคอรัปชั่น การเล่นพรรคเล่นพวกในพรรคคอมมิวนิสต์จีนเองก็เป็นที่จับตา เพราะการพัฒนาของจีนไปไกลเหลือเกินและทรงพลังเหลือเกินด้วย

หนังสือเล่มนี้จะทำให้คนไทยมองจีนในแบบที่จีนเป็นอยู่จริง ๆเพราะว่าสิ่งที่สี จิ้นผิงพูดเมื่อปี 2012 ปัจจุบันนี้ก็ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ถูกนำมาปฏิบัติแล้ว จากนโยบายได้แปรรูปมาเป็นการบริหารและการปฏิบัติที่แท้จริงหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นนโยบายต่างประเทศ ด้านการค้า ธุรกิจ จำได้ว่าตอนปี 2012 เคยแก้ข่าวอยู่ที่จีน ก็เกี่ยวกับว่าสี จิ้นผิงมีนโยบายโน่นนี่ พอกลับไปอยู่ที่ไทยก็ได้ติดตามข่าว ก็อ๋อ..นโยบายนี้ได้รับการถ่ายทอดมาสู่การปฏิบัติที่แท้จริงแล้ว ก็จะเห็นว่าสิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่ต้องถูกกระทำมันเกิดขึ้นจริง ๆ ดังนั้น การได้อ่านหนังสือเล่มนนี้ก็จะเห็นได้ว่าในอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้น จีนจะทำได้อย่างที่จีนว่าไว้ไหม สี จิ้นผิงจะทำได้อย่างที่กล่าวไว้หรือไม่ ก็เป็นสิ่งน่าติดตามมาก ๆ แล้วการขยับของจีนตอนนี้มันหมายถึงการขยับของทั้งโลก

ผมมองว่าแนวคิดการเชื่อมโยงกันของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นเรื่องที่ดี โลกสมัยนี้ไม่ควรปิดกั้นอะไรกัน ยิ่งการเดินทางไปมาหาสู่กันอย่างสบายก็ยิ่งเป็นเรื่องดี รวมถึงการสื่อสารของสื่อด้วย ตอนนี้ที่เมืองไทยเองก็มีสื่อจีนจำนวนมาก โดยเฉพาะสื่อที่ผ่านออนไลน์ ก็แสดงว่าทางจีนให้ความสำคัญกับประเทศไทยในการที่จะสื่อสารกัน

หนังสือเล่มนี้ครอบคลุมทุกเรื่องที่เป็นนโยบายหลักของจีน ในหนังสือมีโค้ดที่ผมชอบมากและแอบจดไว้ คือสี จิ้นผิงพูดไว้ในเนื้อความตอนหนึ่งว่า "โบราณกล่าวไว้ว่า วิถีการเรียนรู้คือการเสาะหาคุณธรรม คือการใกล้ชิดประชาชน คือการหยุดที่สุดยอดแห่งความดี ค่านิยมหลักจริง ๆ แล้วก็เป็นคุณธรรมอย่างหนึ่ง เป็นทั้งคุณธรรมของปัจเจกบุคคลและยังเป็นคุณธรรมของส่วนรวม ก็คือคุณธรรมของประเทศ คุณธรรมของสังคม หากชาติไร้ซึ่งคุณธรรมจักไม่เจริญ หากคนไร้คุณธรรมจักไม่อาจยืนหยัดได้ หากชนเผ่าใดหรือประเทศใดไม่มีค่านิยมหลักร่วมกัน การดำเนินการโดยไร้หลักยึดเหนี่ยว ชนเผ่านั้นหรือประเทศนั้นก็ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้" นี่คือหลักในการบริหารประเทศส่วนหนึ่งของสี จิ้นผิง ซึ่งให้ความสำคัญกับประชาชนแล้วก็ให้ความสำคัญทั้งในส่วนที่เป็นปัจเจกแล้วก็เป็นภาพรวมใหญ่ของประเทศว่าจริง ๆ แล้วทุกคนต้องร่วมมือกัน ถ้าไม่ร่วมมือกันมันก็เดินไปข้างหน้าไม่ได้ ถ้าไม่มีอะไรจะยึดเหนี่ยวมันก็ต่างคนต่างไป ไม่สามารถที่จะเกิดความเจริญก้าวหน้าได้ อะไรอย่างนี้ ก็จะเห็นว่าสี จิ้นผิงพยายามรวบรวมชนเผ่าต่าง ๆ ในประเทศ พยายามผลักดันให้ทุกฝ่ายมีการพัฒนา แล้วก็ปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นซึ่งเป็นเหมือนแก่งหินในแม่น้ำต้องเอาออกไป เพื่อให้น้ำไหลคล่องขึ้น หนังสือเล่มนนี้น่าสนใจมาก ๆ ครับ เริ่มวางจำหน่ายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ตอนนี้ต้องจัดพิมพ์ครั้งที่ 2 ถือว่าได้รับความสนใจมาก