ในรอบปีหนึ่งๆ ประเทศจีนจะมีเทศกาลต่างๆ ที่สนุกสนาน รวมทั้งมีประวัติความเป็นมาหรือตำนานที่น่าสนใจจำนวนมากมาย ในที่นี้ แนนขอยกตัวอย่าง 6 เทศกาลที่สำคัญ เพื่อมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
เทศกาลตรุษจีน -- เทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันที่ 15 เดือน 1 ของปีถัดไป รวมแล้วกินเวลาทั้งหมดประมาณ 3 อาทิตย์ ประชาชนจะเตรียมต้อนรับเทศกาลตรุษจีนโดยการทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้าและผ้าห่ม ซึ่งถือเป็นการขับไล่สิ่งสกปรกออกจากบ้าน นอกจากนั้น ยังตัดกระดาษติดประดับหน้าต่าง เขียนคำอวยพรปีใหม่ และยังต้องซื้อของกินของใช้มากมาย เช่น ลูกอม ขนม หมูเห็ดเป็ดไก่ และผลไม้นานาชนิด เพื่อเตรียมไว้กินหรือต้อนรับแขกในช่วงเทศกาล สิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติ ก็คือการรับประทานอาหารด้วยกันทั้งครอบครัวในคืนส่งท้ายปีเก่า โดยอาหารยอดนิยมนั้นคือเกี๊ยวต้ม เมื่อรับประทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว คนในครอบครัวมักจะดูโทรทัศน์ด้วยกันจนกว่าจะพ้นเที่ยงคืน นอกจากนี้ยังมีประเพณีการจุดประทัดต้อนรับปีใหม่เพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจ และไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ เพื่อนสนิทในวันขึ้นปีใหม่ เพื่ออวยพรให้เกิดโชคลาภ สุขภาพแข็งแรงและมีความสุข
ชาวจีนมีประเพณีการรับประทานอาหารด้วยกันทั้งครอบครัวในคืนก่อนวันตรุษจีน
เทศกาลหยวนเซียว -- ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน หรือวันสุดท้ายของเทศกาลตรุษจีน และเป็นคืนแรกของปีใหม่ที่จะเห็นพระจันทร์เต็มดวง เทศกาลหยวนเซียวมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า"เทศกาลโคมไฟ" เนื่องจากมีประเพณีแขวนโคมไฟ และกิจกรรมสำคัญของเทศกาลนี้ก็คือ การชมโคมไฟ นอกจากนี้ยังมีประเพณีการกินขนมบัวลอย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกัน อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า และสมบูรณ์พูนสุข
โคมไฟประดับประดาตามอาคารในเทศกาลหยวนเซียว
เทศกาลวันเช็งเม้ง -- วันเช็งเม้งเป็น 1 ใน 24 ฤดูกาลตามปฏิทินสุริยคติของจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เมษายนของทุกปี คำว่า "เช็งเม้ง" หมายความว่า สว่างและสดชื่น เนื่องจากช่วงนั้นเป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศสดชื่น หญ้ากำลังขึ้นเขียว ป่าไม้เริ่มผลิดอกออกใบ เป็นช่วงเริ่มต้นของการเพาะปลูก ในวันนี้ ผู้คนจะเดินทางไปกราบไหว้ ทำความสะอาดสุสานของบรรพบุรุษ จุดธูปเทียน เผากระดาษเงินกระดาษทอง และเดินเที่ยวตามชานเมือง รวมทั้งเก็บกิ่งต้นหลิวกลับมาเสียบที่ประตูบ้านเพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจและความโชคร้าย
เทศกาลตวนอู่ -- ตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน เทศกาลตวนอู่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึง ชวีหยวน กวีผู้รักชาติในยุคจ้านกั๋ว (475 ปีก่อนคริสตศักราช – 221 ปีก่อนคริสตศักราช) ในสมัยนั้น ประเทศจีนแบ่งออกเป็น 7 ก๊ก โดยมีก๊กฉินเป็นก๊กที่แข็งแกร่งที่สุดและมีความคิดที่จะรวมก๊กทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียว ส่วนชวีหยวนนั้นเป็นขุนนางก๊กฉู่ และหวังที่จะร่วมมือกับก๊กอื่นๆ เพื่อต่อต้านก๊กฉิน แต่ความคิดนี้ ถูกขัดขวางโดยขุนนางกังฉิน ทำให้กษัตริย์ก๊กฉู่ปลดชวีหยวนออกจากการเป็นขุนนางและขับไล่ออกจากเมืองหลวง ต่อมา ก๊กฉู่แพ้ต่อก๊กฉิน ชวีหยวนเสียใจมากที่ไม่สามารถรักษาเอกราชของบ้านเมืองตนไว้ได้ จึงกระโดดแม่น้ำ มี่หลัวเจียง ฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 5 เดือน 5 หลังจากชาวบ้านได้ทราบข่าวต่างก็พากันมาหาศพของชวีหยวน แต่ก็หาไม่พบ ชาวบ้านไม่อยากให้ปลากัดกินศพของชวีหยวน จึงนำอาหารโยนลงในแม่น้ำให้ปลากินแทน จากนั้นเป็นต้นมา ในวันที่ 5 เดือน 5 ของทุกปี ชาวบ้านก็จะใช้ปล้องไผ่ใส่ข้าวสวยไว้ข้างใน โยนลงไปในแม่น้ำให้ปลากิน พร้อมภาวนาขออย่าให้ปลากินศพของชวีหยวน ต่อมา ข้าวในปล้องไผ่ก็ค่อยๆ พัฒนามาเป็นขนมบ๊ะจ่างในปัจจุบัน การกินขนมบ๊ะจ่างเป็นประเพณีที่สำคัญที่สุดในเทศกาลตวนอู่ นอกจากนี้ยังมีประเพณีการแข่งพายเรือมังกร ซึ่งมีที่มาเกี่ยวข้องกับชวีหยวนเช่นกัน กล่าวคือ เมื่อชาวบ้านทราบว่าชวีหยวนกระโดดลงแม่น้ำแล้ว ก็พากันพายเรือไปช่วยชีวิตเขาอย่างสุดความสามารถ ซึ่งการพายเรือเร็วนี้ก็ได้กลายมาเป็นการแข่งเรือในปัจจุบัน
การแข่งพายเรือมังกรในเทศกาลตวนอู่
เทศกาลชีซี – หรือเทศการแห่งความรัก ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน มีตำนานเล่าว่า กาลครั้งหนึ่ง เทพเจ้าแห่งสวรรค์มีธิดา 7 คน คนเล็กฉลาดและทอผ้าออกมาได้สวยงามมาก จึงมีชื่อเรียกว่า สาวทอผ้า ส่วนบนโลกมนุษย์ มีหนุ่มเลี้ยงวัวผู้หนึ่งที่มีจิตใจงดงามและขยันขันแข็ง วันหนึ่ง ธิดาทั้งเจ็ด ได้ลงมาสรงน้ำบนโลกมนุษย์ ธิดาคนสุดท้องได้ตกหลุมรักกับหนุ่มเลี้ยงวัว และแต่งงานอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เมื่อเทพเจ้าแห่งสวรรค์ทราบข่าวว่าธิดาองค์เล็กแอบไปแต่งงานกับผู้ชายในโลกมนุษย์จึงกริ้วมาก และได้สั่งให้ทหารลงไปจับสาวทอผ้ามาลงโทษ ขณะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้านั้น สาวทอผ้าพยายามดิ้นออกจากมือของทหาร เทพเจ้าแห่งสวรรค์จึงยื่นหัตถ์ออกมาผ่าท้องฟ้าเป็นสองฝั่ง ทำให้เกิดแม่น้ำสีเงินอันกว้างใหญ่กั้นระหว่างหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า แต่ทันใดนั้นก็มีนกนางแอ่นบินมามากมาย เชื่อมตัวเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ เพื่อให้หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าเดินขึ้นไปพบหน้ากัน เทพเจ้าแห่งสวรรค์เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ จึงจำใจต้องอนุญาตให้หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าพบหน้ากันปีละครั้งบนสะพานนกนางแอ่น ในคืนวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี เทศกาลชีซี ถือเป็นวันวาเลนไทน์ของชาวจีน ในวันนี้ หนุ่มสาวชาวจีนจะมีการนัดพบกัน และมอบของขวัญเพื่อแสดงความรักต่อกัน
ตำนานความรักของหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าอันเป็นที่มาของเทศกาลชีซี
เทศกาลไหว้พระจันทร์ -- ตรงกับวันที่ 15 เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ตรงกับช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศปลอดโปร่งเย็นสบาย ท้องฟ้ามีเมฆน้อย พระจันทร์ส่องแสงอย่างแจ่มจรัสตอนกลางคืน ชาวจีนเชื่อกันว่า พระจันทร์เต็มดวงเป็นสัญลักษณ์ของความบริบูรณ์ ถ้าพูดถึงครอบครัว ก็หมายถึงการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจึงมีประเพณีชมความงามของพระจันทร์ พร้อมกับกินขนมไหว้พระจันทร์ไปด้วย ลักษณะของขนมไหว้พระจันทร์เป็นทรงกลม ซึ่งก็เป็นสัญลักษณ์ของการกลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเช่นกัน
จากประเพณีในเทศกาลต่างๆ เหล่านี้ จะเห็นได้ว่า ชาวจีนให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการรำลึกถึงบรรพบุรุษในเทศกาลเช็งเม้ง หรือการกลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลไหว้พระจันทร์ งานเทศกาลของจีนจึงไม่ได้จัดขึ้นเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถือเป็นโอกาสสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในครอบครัวอีกด้วย ชาวจีนให้ความสำคัญกับการสืบทอดวัฒนธรรมมาก ดังนั้น ลูกหลานชาวจีนไม่ว่าจะอยู่แห่งใดในโลก ก็ยังคงรักษาประเพณีอันดีงามเหล่านี้ไว้ และสืบทอดกันเสมอมา
แนน