ในบทความเรื่อง "พาไปเที่ยวบ้านเพื่อนในปักกิ่ง" แนนได้พาเพื่อนๆ ไปชมชีวิตความเป็นอยู่ของคนปักกิ่งในปัจจุบันกันไปแล้ว วันนี้ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศกันสักหน่อยดีไหมคะ ไปชมซอยโบราณซึ่งสะท้อนวีถีชีวิตของคนปักกิ่งในสมัยก่อนกันค่ะ
(บน) ที่อยู่อาศัยแบบโบราณในปักกิ่ง (ล่าง) หูท่งสายต่างๆ
หูท่ง เป็นชื่อเรียกของซอยต่างๆ ซึ่งอยู่รอบนอกของพระราชวังต้องห้าม เป็นเอกลักษณ์ของเมืองปักกิ่ง คำว่า หูท่ง มีที่มาจากศัพท์ภาษามองโกลที่แปลว่า บ่อน้ำ เนื่องจากในสมัยที่ราชวงศ์หยวนเริ่มสร้างกรุงปักกิ่งนั้น เมื่อจะสร้างสิ่งก่อสร้างใดๆ ก็จะยึดเอาแหล่งน้ำเป็นหลัก อย่างเช่นเวลาผู้คนจะสร้างบ้าน ก็จะขุดบ่อน้ำก่อน แล้วค่อยออกแบบผังบ้าน และระหว่างบ้านแต่ละหลังนั้นก็จะมีการเว้นช่องไว้ เพื่อเป็นทางสัญจรของคนและม้า รวมทั้งเพื่อการระบายอากาศและรับแสงแดด ดังนั้นตำแหน่งของบ่อน้ำจึงมีความสำคัญต่อผังเมืองเป็นอย่างมาก ภายหลังผู้คนจึงใช้คำว่า บ่อน้ำ ในความหมายที่ว่า ช่องว่างระหว่างบ้าน หรือ ถนนหนทางนั่นเอง
ต้นกำเนิดของหูท่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) โดยในสมัยนั้นฮ่องเต้จะปูนบำเหน็จให้แก่ขุนนางที่มีความดีความชอบเป็นที่ดิน ใครได้อยู่ใกล้พระราชวังมากก็แสดงว่าเป็นขุนนางใกล้ชิด เมื่อขุนนางเหล่านี้สร้างบ้านบนที่ดิน ก็จะทำให้เกิดซอยต่างๆ ขึ้นมา นอกจากนี้แล้ว สามัญชนเองก็ยังสร้างบ้านอยู่รอบนอกใจกลางเมือง ทำให้พื้นที่ของหูท่งขยายออกไปเรื่อยๆ ตามการพัฒนาของตัวเมือง ตามบันทึกแล้ว ในสมัยราชวงศ์หยวนมีหูท่งอยู่จำนวน 413 สาย และเพิ่มเป็น 1,000 กว่าสายในสมัยราชวงศ์หมิง 2,000 กว่าสายในสมัยราชวงศ์ชิง และ 3,600 สายในปี 1986 เราจึงพูดได้ว่า ในขณะที่พระราชวังต้องห้ามเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์นั้น หูท่งก็เป็นตัวแทนของวิถีชีวิตของประชาชนในกรุงปักกิ่งนั่นเอง แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ปัจจุบันนี้จำนวนของหูท่งกำลังลดลง เนื่องจากมีการรื้อที่อยู่อาศัยแบบเก่าภายในตัวเมืองเพื่อสร้างหมู่บ้านหรืออาคารพาณิชย์ขึ้นใหม่ รัฐบาลปักกิ่งจึงต้องเริ่มออกมาอนุรักษ์หูท่งโบราณไว้ และได้พัฒนาบางส่วนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ทำให้ชาวต่างชาติอย่างเราได้ไปชมวิถีชีวิตของคนปักกิ่งโบราณอย่างสะดวกสบายขึ้นมากค่ะ
อย่างที่ทราบกันแล้วว่าจำนวนหูท่งในปักกิ่งนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน แนนขอเลือกแนะนำซอยที่น่าไปเที่ยวชม และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับหูท่งมาให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันสักเล็กน้อยนะคะ
ก่อนอื่นเรามารู้จัก "ที่สุด" ของหูท่งกันดีกว่าค่ะ หูท่งที่ยาวที่สุดนั้นมีความยาวถึง 3 กิโลเมตร แต่ที่สั้นที่สุดนั้นมีความยาวเพียง 25.2 เมตร หูท่งที่กว้างที่สุดนั้นกว้างถึง 32.18 เมตร แต่ที่แคบที่สุดนั้นกว้างเพียง 40 เซนติเมตร เรียกว่า ถ้าคนสองคนเดินสวนกัน แต่ละคนต้องหันไปด้านข้างถึงจะผ่านกันได้ นอกจากนี้แล้วยังมีหูท่งคดเคี้ยวมากที่สุด มีหัวเลี้ยวถึง 13 จุดเลยค่ะ
หูท่งในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ยังได้รับการปรับปรุงเป็นร้านค้าต่างๆ อีกด้วย หูท่งที่มีชื่อเสียงและนักท่องเที่ยวนิยมไปกันมาก อยู่บริเวณรอบๆ หอกลองและหอระฆัง ส่วนที่แนนเคยไปและติดใจเป็นอย่างมากก็คือหูท่งที่ชื่อว่า หนานหลัวกู่เซี่ยง (南锣鼓巷)ค่ะ
(บน) ถนนหนานหลัวกู่เซี่ยง (ล่าง) ร้านค้าต่างๆ บนถนนสายนี้
หนานหลัวกู่เซี่ยง เป็นหูท่งที่ยาว 786 เมตร กว้าง 8 เมตร สร้างเสร็จในปี 1267 พร้อมกับการสร้างกรุงปักกิ่งในสมัยราชวงศ์หยวน หูท่งสายนี้วางตัวอยู่ในทิศเหนือ-ใต้ และได้แตกเส้นสายออกเป็นหูท่งขนาดเล็กอีกมากมาย ปัจจุบันนี้ บริเวณรอบๆ หนานหลัวกู่เซี่ยงเป็นพื้นที่เดียวที่ยังรักษาสภาพหมู่บ้านและผังเมืองโบราณในสมัยราชวงศ์หยวนไว้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในพื้นที่อนุรักษ์ภายในเมืองเก่าปักกิ่งอีกด้วย
ถึงแม้ถนนและโครงสร้างจะรักษาสภาพแบบโบราณไว้ แต่บ้านเรือนต่างๆ ตามถนนเส้นนี้ได้รับการพัฒนาเป็นร้านค้าหลากหลายประเภทเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ บาร์ที่ตั้งอยู่ในบ้านโบราณ ผสมผสานบรรยากาศสงบๆ เข้ากับวัฒนธรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวค่ะ นอกจากนั้นแล้วยังมีร้านค้าที่มีชื่อเสียงอีกหลายเจ้า เช่น ร้านขายร่มกระดาษ ร้านขายชีสชื่อดังที่ไปทีไรจะต้องพบคนต่อแถวยาวหลายเมตรทุกที ร้านเบเกอรี่ ร้านขายสุราและบุหรี่ ร้านขายเครื่องประดับ และร้านขายของที่ระลึกเป็นต้น
การมาเที่ยวที่หูท่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวที่มาปักกิ่งไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้พบกับร้านค้าแปลกๆ ใหม่ๆ แล้ว ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เพื่อนๆ จะได้สัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คน ได้มีเวลารำลึกถึงอดีต ได้ผ่อนคลายและพบกับความสงบในเมืองใหญ่แห่งนี้ค่ะ
แนน