สาระเบาๆ เล่าสู่กันฟัง เรื่อง พาไปเที่ยวบ้านเพื่อนในปักกิ่ง
  2011-07-04 15:04:52  cri

ลักษณะของหมู่บ้านในกรุงปักกิ่ง

จากการสำรวจสำมะโนครัวประชากรของกรุงปักกิ่งในช่วงปลายปี 2010 พบว่ากรุงปักกิ่งมีประชากรที่พำนักถาวรอยู่ถึง 19.6 ล้านคน เมื่อได้เห็นตัวเลขนี้แล้วเพื่อนๆ คงมีความรู้สึกเดียวกับแนน คือ กรุงปักกิ่งมีผู้คนอาศัยอยู่มากขนาดนี้เลยเหรอ และสิ่งที่เพื่อนๆ คงจะอยากรู้กันต่อไปก็คือ ผู้คนเหล่านี้เขาอยู่กันอย่างไร บ้านของเขาเป็นแบบไหน ไม่แออัดแย่เหรอ วันนี้ แนนจะมาไขปัญหาเหล่านี้ให้กับเพื่อนๆ กันค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอพูดถึงการกระจายตัวของประชากรกันสักนิด ประชากรของกรุงปักกิ่งไม่ได้อยู่หนาแน่นมากนักในพื้นที่ชานเมือง แต่อาศัยอยู่หนาแน่นมากในเขตชั้นในของตัวเมือง ตามภาพแผนที่ของกรุงปักกิ่งที่เห็นข้างล่างนี้ ประชากรกว่า 60% ของทั้งเมืองอาศัยอยู่ที่เขตใจกลางเมืองที่เป็นสีเทากับเขตที่เป็นสีส้มค่ะ ผู้คนในละแวกนี้จะอาศัยอยู่บนตึกสูงเสียดฟ้า เวลาเรานั่งรถไปตามถนนแล้วเห็นตึกสูงอยู่กันเป็นหย่อมๆ มีรั้วล้อมรอบ นั่นแหละค่ะ หมู่บ้านของคนปักกิ่ง

ประชากรกว่า 60% ของกรุงปักกิ่งอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่สีเทาและสีส้ม

พูดถึงพื้นที่แล้วก็ต้องพูดถึงราคาบ้านกันสักนิดค่ะ จากการสำรวจ ราคาบ้านที่ปักกิ่งโดยเฉลี่ยในเดือนมิถุนายน 2011 นั้นอยู่ที่ประมาณ 125,000 บาท/ตารางเมตรและทำเลมีผลต่อราคาบ้านเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น หมู่บ้านทำเลทองอย่าง 钓鱼台七号院 (เตี้ยวอวี๋ไถชีห้าวเยวี่ยน) ที่อยู่ติดกับเรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวอวี๋ไถนั้นราคาสูงถึง 625,000 บาท/ตารางเมตร ในขณะที่บ้านแถวชานเมืองนั้นราคา 40,000 บาท/ตารางเมตรก็ซื้อได้แล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อราคาก็เช่น อยู่ในเขตวงแหวนรอบในหรือไม่ อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าหรือไม่ ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ราคาบ้านที่ปักกิ่งแพงขึ้นอย่างรวดเร็วมากภายในเวลาไม่กี่ปีมานี้ อย่างบ้านของเพื่อนแนนที่ซื้อเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ตอนนั้นราคาไม่ถึง 100,000 บาท/ตารางเมตร แต่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 165,000 บาท/ตารางเมตรแล้วค่ะ ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ เพื่อนอีกคนหนึ่งบอกว่าเขาซื้อบ้านเมื่อ 10 ปีก่อน ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท/ตารางเมตร แต่แค่ภายในเวลา 10 ปี ปัจจุบันนี้ราคาบ้านของเขาเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าค่ะ

ทราบสถิติกันพอสมควรแล้ว เรามาเริ่มชมตัวหมู่บ้านกันดีกว่าค่ะ ส่วนใหญ่แล้วหมู่บ้านในปักกิ่ง 1 หมู่บ้านจะประกอบไปด้วยตึกสูงๆ หลายๆ ตึก อย่างหมู่บ้านของเพื่อนแนนคนหนึ่ง มีตึกทั้งหมด 12 ตึก แต่ละตึกมี 10-29 ชั้น แต่ละชั้นมี 4 ครัวเรือน ถ้าคาดว่าหนึ่งครัวเรือนมีสมาชิก 3 คน หมู่บ้านนี้ก็จะมีคนอยู่เกือบ 3,000 คน เทียบได้กับ 1 ตำบลของไทยเราเลย นอกจากนั้น ภายในหมู่บ้านยังมีสาธารณูปโภคครบถ้วน ทั้งสถานพยาบาล โรงเรียนอนุบาล ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านตัดผม แนนว่า กว่าจะสร้างหมู่บ้านขึ้นมาได้คงต้องใช้เวลาออกแบบและก่อสร้างนานน่าดูเลยค่ะ

หมู่บ้านเหล่านี้จะมีรั้วรอบขอบชิดแน่นหนามากค่ะ ปกติแล้วจะมีประตูทางเข้าอยู่ 2 ทาง คือประตูคนกับประตูรถ ที่ประตูคนเข้าจะมียามเฝ้าอยู่ 2-3 คน คนในหมู่บ้านเวลาเข้าจะต้องสแกนบัตรเข้าบ้านของตนเพื่อให้ประตูใหญ่เปิด แต่ถ้าเราไม่ใช่คนในหมู่บ้าน ไม่มีบัตรเข้าบ้าน ก็ต้องโทรเรียกให้คนในหมู่บ้านออกมารับเราค่ะ ส่วนคนที่มีรถนั้น เวลาซื้อบ้านต้องซื้อที่จอดรถด้วย หากจะเข้าหมู่บ้านทางประตูรถ ก็ต้องเอาบัตรสแกนวางไว้ที่คอนโซลรถ เวลาขับมาถึงหน้าประตู เครื่องสแกนบัตรก็จะตรวจจับสัญญาณแล้วเปิดประตูให้โดยอัตโนมัติ เราก็จะสามารถขับรถลงไปที่ลานจอดรถใต้ดินได้ และจากลานจอดรถนั้นเราก็สามารถขึ้นลิฟท์ไปบนตัวตึกแต่ละหลังได้เลยค่ะ

แต่ก่อนจะเข้าไปในตัวตึกเราต้องผ่านการแสกนบัตรอีกครั้งที่หน้าประตู โดยใช้บัตรใบเดียวกับที่แสกนที่ประตูเข้าหมู่บ้าน แต่ถ้าเราไม่มีบัตรเข้า ก็จะต้องกดหมายเลขบ้านที่จออินเตอร์คอมตรงหน้าประตู เสียงกริ่งจะไปดังที่บ้านหลังนั้นๆ เจ้าของบ้านก็จะสามารถเห็นหน้าเราผ่านหน้าจอ และกดเปิดประตูให้เราเข้ามาได้ค่ะ

เนื่องจากบ้านของคนปักกิ่งเป็นลักษณะอพาร์ตเมนต์ ส่วนใหญ่แล้วจึงมีขนาดค่อนข้างกระทัดรัด อย่างบ้านของเพื่อนแนนคนนี้ มีพื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่เจ้าของบ้านเขากันห้องนอน 1 ห้องไว้เป็นห้องหนังสือ นอกนั้นก็จะมีห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว พูดถึงห้องครัวแนนขอขยายความหน่อยค่ะ เพราะอย่างที่เพื่อนๆ ทราบกัน อาหารจีนจะเน้นการผัดคล้ายกับอาหารไทย ควันเลยค่อนข้างเยอะ ดังนั้นแต่ละบ้านจึงต้องทำประตูกั้นห้องครัวไว้ให้เป็นสัดส่วน และภายในนั้นยังต้องติดตั้งเครื่องดูดควันไว้เพื่อไม่ให้กลิ่นเล็ดลอดออกมาทั่วบ้านค่ะ อุปกรณ์อีกอย่างที่แต่ละบ้านจะขาดไม่ได้ก็คือฮีตเตอร์ ซึ่งจะตั้งอยู่ 3-4 จุดทั่วบ้าน ในหน้าหนาว เทศบาลจะปล่อยน้ำร้อนมาตามท่อเพื่อให้ความอบอุ่นค่ะ

เด็กๆ ออกกำลังกายและเล่นกันที่สวนส่วนกลางของหมู่บ้าน

ถ้าอยู่แต่ในห้องแล้วเบื่อ ผู้คนในหมู่บ้านก็สามารถออกไปเดินเล่นกันได้ที่ข้างนอก โดยหมู่บ้านส่วนใหญ่นั้นจะทำสนามหญ้าอยู่ที่ใจกลางหมู่บ้าน รอบๆ นั้นก็จะมีสนามเทนนิส สนามแบดมินตัน มีเครื่องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ มีอัฒจันทร์ให้นั่งพักผ่อน เท่าที่แนนสังเกต คนในสนามส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่เด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี ก็จะเป็นคนแก่ที่เกษียณแล้วค่ะ นั่นก็เพราะว่าคนหนุ่มสาวปกติแล้วต้องออกไปทำงาน หน้าที่ดูแลลูกหลานก็เลยตกเป็นของปู่ย่าตายายไปค่ะ

เพื่อนๆ รู้สึกอย่างไรบ้างคะหลังจากทำความรู้จักกับบ้านของคนปักกิ่งกันแล้ว สำหรับแนนแล้ว ตอนแรกที่ไปยังรู้สึกไม่คุ้นสักเท่าไหร่ เพราะบ้านที่เมืองไทยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวเป็นหลังๆ แต่พอได้ลองไปอยู่สักพักก็รู้สึกว่าอยู่บ้านแบบนี้ก็สบายดีเหมือนกัน บ้านหลังเล็กๆ จำกัดไม่ให้เราซื้อของอะไรเกินความจำเป็น เป็นการบังคับให้เราใช้ชีวิตแบบพอเพียงโดยทางอ้อมค่ะ

แนน

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040