ขั้นตอนที่ 3 คือ นอนหลับให้เต็ม 8 ชั่วโมง เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า การนอนเป็นวิธีการฟื้นฟูสุขภาพที่ดีที่สุด การนอนมีความสำคัญยิ่งต่อการทำงาน และการดำรงชีวิตของเรา ทารกแรกเกิดต้องนอนวันละ17-18 ชั่วโมง เด็กครบขวบนอนวันละ 13-14 ชั่วโมง เด็ก 4 ขวบนอน 10-12 ชั่วโมง นักเรียนชั้นประถมนอน 10 ชั่วโมง นักเรียนชั้นมัธยมนอน 9 ชั่วโมง วัยหนุ่มสาวนอน 8 ชั่วโมง ผู้สูงอายุนอน 6-7 ชั่วโมง การนอนดีหรือไม่ดีจะพิจารณาจาก 3 ด้านได้แก่ 1.หลับเร็ว วัยหนุ่มสาวหลับได้ทันที ผู้สูงอายุเข้านอนประมาณครึ่งชั่วโมงก็หลับสนิทได้ 2. หลับสนิทเป็นเวลานาน 3. ตื่นนอนอย่างเป็นธรรมชาติ และพอตื่นขึ้นมาแล้วก็สมองสดใส มีพละพลัง และอยากรับประทานอาหารเช้า การแพทย์แผนจีนเสนอให้เข้านอนก่อน 5 ทุ่ม เพราะว่าถ้านอนหลับสนิทในช่วงระหว่าง 5 ทุ่มถึงตี 3 ก็ถือว่าพักผ่อนได้ดีแล้ว นอกจากนี้ ยังเน้นให้นอนกลางวัน 30-60 นาทีเป็นพิเศษด้วย แต่ถ้าเข้านอนหลังเที่ยงคืน ภูมิต้านทานของร่างกายจะลดลง 28%

ขั้นตอนที่ 4 คือ แต่ละวันควรออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง วิธีการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดประหยัดเงินที่สุดและได้ผลดีที่สุดคือ การเดินนั่นเอง เดินวันละประมาณ 6,000 ก้าวจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ การเดินแบ่งเป็นเดินช้า เดินเล่นและเดินเร็ว สำหรับวัยหนุ่มสาวและผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ควรพยายามเดินเร็ว ถึงขนาดนาทีละ 130 ก้าว ชีพจรจะเต้นนาทีละประมาณ 120 ครั้ง ซึ่งจะเป็นผลดีที่สุดต่อหัวใจ ถ้าหมั่นเดินเร็วเป็นครึ่งปี สมรรถนะของหัวใจจะเพิ่มขึ้น 30-50% ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาที่สุดและจังหวะการทำงานและการใช้ชีวิตก็เร็วที่สุดในโลก แต่ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่ประชากรอายุยืนยาวที่สุดของโลกอย่างต่อเนื่องกัน10 ปี สาเหตุสำคัญก็คือ ประชาชนทั่วประเทศสนใจการออกกำลังกาย ชาวญี่ปุ่นเฉลี่ยแล้วเดินประมาณ 6.4 กิโลเมตรต่อวัน ชาวเมริกันเดิน 1,000-3,000 ก้าว ญี่ปุ่นประกาศผลการวิจัยว่า การออกกำลังกายสามารถลดอัตราการตายจากหัวใจวายได้ 35-55% ดังนั้น ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราการเป็นโรคหลอดเลือดในหัวใจต่ำที่สุดของโลก แต่ชาวจีนที่ขยันการออกกำลังกายยังไม่สูงถึง 30% เลย

ขั้นตอนที่ 5 คือหัวเราะวันละ 30 นาที มนุษย์มีอารมณ์มากมายหลายอย่างเช่นดีใจ โกรธ ห่วงใย คิดถึง เศร้าโศก หวาดกลัว ตกใจ เมื่อดีใจจะหัวเราะ เศร้าใจจะร้องไห้ โกรธจะอารมณ์เสีย ทั้งนี้เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก แต่ต้องจำไว้ว่า เมื่อโกรธ อย่าโกรธนานและโกรธมาก ต้องพยายามปรับใจให้เป็นปกติโดยเร็ว เมื่อ 2,000 ปีก่อน การแพทย์แผนโบราณของจีนก็พบว่า การโกรธทำลายตับ การดีใจทำลายหัวใจ การเศร้าใจทำลายปอด การคิดถึงทำลายม้าม และการตกใจทำลายไต ดังนั้น ไม่ว่าอารมณ์ชนิดไหน ถ้ามากเกินควร ก็จะทำลายสุขภาพด้วย เราควรพยายามเป็นเจ้าของอารมณ์ของตน ไม่ถูกอารมณ์ควบคุม แต่ละวันพยายามให้หัวเราะเต็มๆ สัก 30 นาที จะทำให้สบายใจทั้งวัน แต่ผลการทดลองปรากฎว่า การโกรธจะทำให้ร่างกายหลั่งสารพิษชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถฆ่าหนูขาวหนึ่งตัวได้