เดือนมิถุนายน นอกจากเป็นช่วงที่เด็กนักเรียนมัธยมปลายของจีน ต้องกดดันกับการลงสู่สนามสอบเอ็นทรานซ์ เพื่อศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยอย่างที่เคยเอ่ยถึง ยังเป็นเดือนที่มีการจัดพิธีสำเร็จการศึกษาของเหล่าบัณฑิตจบใหม่ของจีนด้วย และสำหรับบัณฑิตที่ยังหางานทำไม่ได้ ก็ต่างรู้สึกกดดันและกังวลกับอนาคตของตนไม่แพ้กัน

จากรายงานหนังสือปกฟ้าประจำปี 2012 โดยสถาบันไมคอซ (MyCOS Institute) องค์กรประเมินคุณภาพการศึกษาอิสระของจีน ได้ระบุถึงผลการสำรวจทางสถิติเกี่ยวกับอัตราการหางานทำของนักศึกษาที่จบการศึกษาในปี 2011 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า จากจำนวนบัณฑิตที่จบการศึกษาทั่วทั้งประเทศมี 6,082,000 คน ในจำนวนนี้ภายหลังสำเร็จการศึกษามาแล้วครึ่งปี มีอยู่ 82.1% ที่ได้งานทำแล้วแบบประจำหรือพาร์ทไทม์ มีระดับเงินเดือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,766 หยวน เพิ่มขึ้น 287 หยวนจากปี 2010 และมี 1.6% ที่สร้างธุรกิจของตนเอง ส่วน 9.3% อยู่ในสถานะว่างงาน

หมุนเวียนมาอีกครั้งกับพิธีจบการศึกษาของเหล่าบัณฑิตใหม่จีน

ที่ดูเหมือนการถ่ายภาพที่ระลึกจะยิ่งนำเสนอให้แปลกแหวกแนวมากขึ้นทุกปี

โดยในกลุ่มผู้ว่างงานนี้มี 1.1% อยู่ระหว่างเตรียมตัวสอบเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท อีก 6.1% ยังคงอยู่ระหว่างการพยายามหางานทำต่อไป ส่วนอีก 2.1% เป็นกลุ่มที่ยังคงไร้เป้าหมายไม่ทั้งหางานและไม่คิดจะเรียนต่อ เพราะฉะนั้นจากจำนวนบัณฑิตที่จบการศึกษาทั้งหมด 6 ล้านกว่าคน เท่ากับมีเกือบ 570,000 คนที่ยังเตะฝุ่นอยู่ และอีกแสนกว่าคน เลือกให้พ่อแม่หาเลี้ยงต่อไป

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการว่างงานก็มาจาก หนึ่ง) เลือกเรียนในสาขาที่เป็นที่นิยม ทำให้มีจำนวนนักศึกษาที่จบมากเกินกว่าตำแหน่งงานที่รองรับ สอง) ตัวนักศึกษาเองไม่ต้องการทำงานระดับล่าง รับไม่ได้กับอัตราเงินเดือนที่น้อย โดยกลุ่มที่ยังว่างงาน อาจเนื่องจากหางานไม่ได้ หรือได้ไม่ตรงกับใจ ทำให้บางคนเลือกที่จะเรียนต่อ โดยปี 2011 มีนักศึกษาที่เลือกศึกษาต่อระดับปริญญาโทเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับปี 2010 ซึ่งนักศึกษาที่จบการศึกษาในปี 2011 ที่ได้งานทำส่วนใหญ่ทำงานด้านการขาย โดยมีอัตราส่วนมากที่สุดเป็น 10.9% รองลงมา ได้แก่ งานด้านการเงิน บัญชี สถิติ ธุรการ เป็นต้น

ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่ว่า "การจบการศึกษาหมายถึงอะไร" บางคนจึงว่าหมายถึง "การตกงาน" อาจด้วยยังมองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวต่อไปในอนาคต โอกาสที่จะได้งานทำดูยากเกินกว่าจะไขว้คว้า หรือคว้าไว้ได้แล้วก็ช่างเปราะบางไม่แน่นอน และอาจด้วยความเคยชินกับการตอบในช่องรายละเอียดส่วนตัวตลอดช่วงระยะเวลาสี่ปีว่า "อาชีพนักศึกษา" ทำให้เมื่อถึงคราวที่ต้องจากลาก็เท่ากับว่าตนเองต้องตกงาน ชวนให้ใจหายนั่นเอง

แต่มีไม่น้อยคนที่รู้สึกว่าการจบการศึกษาหมายถึง "โอกาส" โอกาสที่มากขึ้นในการใช้ความรู้ความสามารถที่มี เพราะการบ่มเพาะที่ต่างรับมาตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ภายในรั้วโรงเรียนเกือบยี่สิบปีนั้น น่าจะช่วยให้การก้าวสู่สังคมไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด แล้วคุณล่ะคิดว่าการจบการศึกษาหมายถึง?

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府