1. หลู่ ซุ่น และสวู กวนผิง
หลู่ ซุ่น(ซ้าย)และกวน ผิงพร้อมลูกชาย
ความรักของนักเขียนยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน เป็นผู้สร้างสรรค์สังคมผ่านงานวรรณกรรมเพื่อชีวิตและเป็นคนวางรากฐานให้ภาษาจีนเป็นปึกแผ่นมาจนถึงทุกวันนี้ ความรักของ "หลู่ ซุ่น" กับลูกศิษย์สาวสวย "สวู กวนผิง" เป็นเรื่องราวที่สุดแสนโรแมนติค ตอนนั้นขณะที่หลู่ ซุนอายุเพียง 22 ปี และได้ไปรับปากจะแต่งงานกับสาวท้องถิ่นคนหนึ่งตามแม่เลือกให้ ซึ่งไม่รู้หนังสือเลยและยังมัดเท้าตามประเพณีดั้งเดิมด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะยอมแต่งงานกับหญิงสาวคนนี้แต่หลังแต่งานก็ออกจากบ้านมาทำงานที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่เคยกลับไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยาอีกเลย แต่ก็ยังดูแลผู้หญิงคนนี้มาตลอดชีวิต
จนกระทั่งอายุ 40 ปี หลู่ ซุ่นได้ตกหลุมรักลูกศิษย์ของตัวเอง ทั้งสองเริ่มเขียนจดหมายหากัน และหลู่ ซุนได้เขียนบรรยายถึงความรู้สึกและความรักของเขาไว้ในหนังสือเรื่อง "The Three Letters" หากใครอยากรู้พวกเขามีแรงดึงดูดต่อกันมากเพียงใดนั้นสามารถตามอ่านได้จากเล่มนี้ หลังจากนั้นไม่นานสวูได้กลายมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขา ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดตัวอักษร แปลสุนทรพจน์เป็นภาษากว่างตุ้ง และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และในปี 1929 ช่วงเริ่มต้นของขบวนการเคลื่อนไหวนักคิดและนักเขียนของจีน เขาทั้งสองคนได้แอบเดินทางไปเที่ยวสองต่อสองที่เมืองหางโจวด้วยกันอย่างเงียบๆ ต่อจากนั้นไม่นาน สวูก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดทารกชายในวันที่ 27 กันยายน ปี 1929 เป็นเสมือนโซ่ท้องคล้องใจของทั้งคู่
2. หู ชื่อและเจียง ตงซิว
หู ชื่อ(ซ้าย)และเจียง ตงซิวผู้เป็นภรรยา
"หู ชื่อ" เป็นทั้งนักปรัชญา นักเขียน และนักการทูตที่มีชื่อเสียง เขาถูกคลุมถุงชนแต่งงานกับ
"เจียง ตงซิว" หญิงสาวที่อายุมากกว่าหนึ่งปี อีกทั้งไม่รู้หนังสือและก็ยังมัดเท้าตามประเพณีโบราณอีกด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ภรรยาที่สมบูรณ์แบบ แต่หูเองกลับยอมรับถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะดึงดันต่อต้านก็ตาม แต่ด้วยความไม่อยากให้มีอะไรมาทำให้รบกวนใจขณะกำลังทำงานเพื่อชาติ เขาจึงเรียนรู้ชีวิตแต่งงานและปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งสองอยู่กันอย่างมีความสุข ราบรื่น และรักใคร่กลมเกลียวกันดีมาตลอด
3. หลิน ชูหัวและสวี หุ้ยหมิน
หลิน ชูหัว(ซ้าย)และสวี หุ้ยหมิน
นักเขียนวรรณกรรมชื่อดังเรื่อง "ความรักของชีวิตและความความตาย" ของ "หลิน ชู่หัว" นั้นเป็นการบอกเล่าเรื่องราวความรักที่รันทดของเธอกับ "สวี หุ้ยหมิน" อย่างตรงไปตรงมาที่สุด หลินเกิดในครอบครัวคหบดีร่ำรวยล้นฟ้ารวมทั่งพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง แต่เธอกลับมาหลงรักอาจารย์สอนพิเศษส่วนตัว บ้านของสวีนั้นยากจนมาก ซึ่งชีวิตทั้งคู่ช่างแตกต่างกันมากทั้งสถานะและฐานะทางสังคมจึงทำให้ต้องแอบคบกันเงียบๆ ไม่สามารถเปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะได้
วรรณกรรมเล่มนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวความยากลำบากมากเพียงใดกว่าจะได้รักกันและอยู่ด้วยกัน รวมถึงความซื่อสัตย์ต่อกันและความโหดร้ายของสงครามในช่วงนั้น ถึงแม้ว่าความอ่อนแอของสุขภาพและความทุกข์ยากจะทำให้สวีเสียชีวิตไปก่อน แต่เขาก็ได้มีตัวแทนเป็นลูกหนึ่งคนให้หลินคอยเลี้ยงดูและมอบความรักให้ทดแทนกัน
เรื่องราวความรักของนักคิด นักเขียนจีนยุคใหม่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีคู่รักที่มีเรื่องราวที่สุดแสนประทับใจและบางเรื่องก็เป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรัก ถึงแม้พวกเขาจะยืนอยู่ในระดับแนวหน้าลุกขึ้นสู้เพื่อชาติ แต่เบื้องหลังก็มีแรงขับและพลังใจอย่างแรงกล้าจากสามี ภรรยาหรือครอบครัวของพวกเขายืดหยัดและเข้มแข็งต่อไป โปรดติดตามในปักกิ่งเพลินเพลินสัปดาห์หน้า
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์