ผ่านมาสามสัปดาห์ต่อเนื่องกันเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของนักคิดและนักเขียนจีนยุคใหม่ และสัปดาห์นี้จะเป็นสี่คู่รักสุดท้ายที่ยังเป็นความทรงจำของใครหลายๆคนจนถึงปัจจุบัน
7. สวี จื้อโม่และลู่ เสี่ยวม่าน
สวี จื้อโม่ (ขวา) และลู่ เสี่ยวม่าน
ปี 1925 กวีพ่อหม้าย "สวี จื่อโม่" ได้พบกับ "ลู่ เสี่ยวม่าน" สาวสวยชั้นสูงที่มีชื่อเสียงมาก
ที่สุดของกรุงปักกิ่ง ตอนนั้นเธอได้แต่งงานไปกับเศรษฐีหนุ่มไฟแรงซึ่งเป็นเพื่อนของสวี่ไปก่อน แต่ก็เป็นการแต่งงานแบบคลุมถุงชนโดยผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เกิดจากความรักเลย
สามีของลู่เองเป็นนักธุรกิจที่ยุ่งตลอดเวลา เขาจึงฝากฝังลู่ให้ทางสวี่เป็นคนดูแล พาเธอไปไหนต่อไหนเพราะไม่ต้องการให้เหงาหรือโดดเดี่ยว แต่เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และสวี่ได้ค้นพบว่า ลู่นั้นไม่ใช่แค่หญิงสาวที่สวยแต่หน้าตาเท่านั้น หากแต่ยังเฉลียวฉลาดและสนใจในงานวรรณกรรมต่างๆ อีกด้วย ยิ่งสร้างความประทับใจให้เขาเป็นอย่างยิ่ง นับวันความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเป็นที่สังเกตของเพื่อนๆ และญาติสนิท ต่อมา สวี่จึงหลบลี้หนีหน้าผู้คนและสังคมไปหาที่สงบๆ ในยุโรป แต่อยู่ได้ไม่นาน ทางลู่ได้ติดต่อและคะยั้นคะยอให้กลับมาจีนเพื่อพบกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอและสามีจะย้ายไปลงหลักปักฐานที่นครเซียงไฮ้ ลู่เองกังวลว่า ทางสวี่จะกลับมาไม่ทันร่ำลา เธอจึงแกล้งป่วยเพื่อให้การเดินทางไปนครเซียงไฮ้นั้นเลื่อนออกไปจนกว่าสวี่จะกลับมาที่กรุงปักกิ่ง แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะพ่อแม่ของลู่ได้บังคับให้เธอตามสามีไปทันทีโดยไม่สนใจอาการ(แกล้ง)ป่วยของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่นาน เมื่อสวี่กลับมากรุงปักกิ่งและได้ตามไปพบลู่ที่นครเซียงไฮ้ทันที และในปีถัดมา ลู่และสามีได้ตัดสินใจหย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ จึงทำให้สวี่และลู่ได้ใช้ชีวิตคู่กันอย่างเปิดเผย แต่ทั้งสองก็มีความสุขอยู่ได้ไม่นาน เพราะลู่เองนั้นมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและไม่เคยทำงาน อีกทั้งยังใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยจึงทำให้สวี่นั้นต้องทำงานหนักมากโดยการเป็นอาจารย์ให้มหาวิทยาลัยชื่อดังของเซียงไฮ้ถึงสองแห่ง แต่รายรับก็ยังไม่พอกับรายจ่ายที่ลู่นั้นต้องการ แต่ทั้งคู่ก็อดทนและครองรักกันเรื่อยมา จนในปี 1931 สวี่เสียชีวิตกระทันหันเพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทางลู่นั้นก็ไม่ได้มีคนรักใหม่แต่อย่างใด เธอยังใช้ชีวิตในแบบของเธอและหันไปศึกษาต่อด้านภาษาศาสตร์และการแปลอย่างจริงจัง จนเป็นนักแปลหนังสือที่มีชื่อเสียงมากมายให้สังคมจีน และเสียชีวิตในปี 1965
8. เซิ่น ฉงเหวินและจาง เจ้าเหอ
เซิ่น ฉงเหวิน (ซ้าย) และจาง เจ้าเหอ
นักเขียนร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของจีนกับภรรยาที่เป็นนักเขียนและนักแปล ทั้งสองได้
พบรักกันในขณะที่จางนั้นอายุ 19 ปีและเป็นลูกศิษย์ของเซิ่น อาจารย์หนุ่มอายุ 32 ปี นับเป็นอีกคู่รักที่มีชื่อเสียงในวงการวรรณกรรม ได้ต่อสู้และฝ่าฟันเพื่อความรักมาเกือบครึ่งทศวรรษ จางนั้นยังเป็งแรงบันดาลใจที่สำคัญของงานวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงเรื่อง "Border Town" ของเซิ่นอีกด้วย
ตัวเซิ่นนั้นเป็นนักเขียนที่ดีแต่มีปัญหาในการสื่อสารทางการพูด ช่วงนั้นเขาเขียนจดหมายรักจีบจางทุกวัน และยังเก็บรวบรวมไว้ในไดอารี่จนในวันหนึ่งก็นำความรู้สึก ความทรงจำและแรงบันดาลใจต่อผู้หญิงคนนี้มาเป็นตัวเอกในวรรณกรรมของเขา หลังจากเซิ่นเสียชีวิตในปี 1988 จางเริ่มค้นพบสิ่งที่เซิ่นได้เก็บบันทึกไว้เกี่ยวกับความรักและตัวเธอ เธอจึงรวบรวมและนำออกมาพิมพ์เป็นหนังสือเพื่อระลึกถึงเซิ่น นักเขียนร่วมสมัยตลอดกาล
9. เฉิน หยินเกอและถัง หยวน
เฉิน หยินเกอ (ซ้ายที่ 2) และถัง หยวนพร้อมลูกๆ
เฉิน หยินเกอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาที่มีชื่อเสียง ตอนอายุ 40 ปี เขาได้รู้จักกับถัง หยวนซึ่ง
เป็นหลานของผู้สำเร็จราชการไต้หวันในปลายสมัยราชวงศ์ชิง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด ความรักของทั้งคู่นั้นสมบูรณ์แบบจนที่ใครๆ มักจะพูดว่า "ทั้งคู่เกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน" เฉินนั้นเสียชีวิตในปี 1969 และต่อมาถังนั้นก็เสียชีวิตตามไปในเวลาใกล้เคียงกัน
10. ปิง ซินและอู่ เวิ่นโจว
ปิง ซิน (ซ้าย) และอู่ เวิ่นโจว
ปิง ซินเป็นนักเขียนหญิงร่วมสมัยของจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด ความรักของเธอนั้นเกิด
ขึ้นราวกับนิยาย ขณะที่เธอวิ่งเล่นรอบเรือที่กำลังเดินทางไปสหรัฐฯนั้น เธอได้พบกับอู่ และจำได้ว่าเขาเป็นพี่ชายเพื่อนร่วมห้องของเธอที่เซียงไฮ้ ทั้งสองได้แนะนำตัวและพูดคุยจนรู้ว่า ไปเรียนต่อที่สหรัฐฯเหมือนกัน ต่อมา ทั้งสองได้แต่งงานกันขณะที่ยังอยู่ในสหรัฐฯ และกลายเป็นคู่รักนักวิชาการที่มีชื่อเสียงมากทั่วโลก เรื่องราวความรักของทั้งคู่ยังคงตราตรึงและประทับใจชาวจีนอยู่เสมอมา และได้นำเรื่องราวของพวกเขามาถ่ายทอดเป็นละครหรือภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะต้องการสร้างแรงบันดาลใจและศรัทธาในเรื่องความรักของผู้คนสมัยก่อนที่ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับภาวะยากลำบากแค่ไหน หรือสุขมากแค่ไหน ทั้งคู่ก็ยังมีความรักที่แท้จริงให้แก่กันและประคองให้ทั้งสองคนผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยความแข็งแกร่ง
จะเห็นได้ว่า สิบเรื่องรักระหว่างรบของนักคิดและนักเขียนจีนยุคใหม่นั้น ไม่ได้จบลงด้วยการครองรักอย่างสมบูรณ์แบบทุกคู่ แต่ทุกคู่ก็เกิดจากความรักจนสร้างสรรค์งานเขียนและเป็นตัวอย่างให้กับผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน ทุกคนคือมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินที่ต้องการความรักและแรงบันดาลใจเพื่อจะต้องมีลมหายใจและเดินต่อในเส้นทางที่เชื่อและศรัทธาอย่างมุ่งมั่นต่อไป
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์
สามารถติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่
1."สิบเรื่องรักระหว่างรบของเหล่าบรรดานักคิดและนักเขียนจีนยุคใหม่(1)" https://thai.cri.cn/247/2012/11/01/232s203720.htm
2. "สิบเรื่องรักระหว่างรบของเหล่าบรรดานักคิดและนักเขียนจีนยุคใหม่ (2)"
https://thai.cri.cn/247/2012/11/08/121s203992.htm