ขณะที่กำหนดเวลาของการยุบสภาผู้แทนราษฎรใกล้จะมาถึง สถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปไตยตึงเครียดยิ่งขึ้น และมีเสียงคัดค้านการยุบสภาฯ สูงมาก แต่เหตุใดนายโยชิฮิโกะ โนดะจึงเปลี่ยนใจจะยุบสภาฯ โดยมีเงื่อนไขอย่างเร่งด่วน นักวิเคราะห์เห็นว่ามีสาเหตุสำคัญ 3 ประการ
แรกทีเดียวคือ การกระทำนี้สอดคล้องกับท่วงทำนองทางการเมืองของนายโยชิฮิโกะ โนดะ เมื่อเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาก็กล่าวเน้นว่าจะทำงานการเมืองที่มีการตัดสินใจเด็ดขาด อย่า่งเช่น เขายอมที่จะไล่สมาชิกพรรคฯกว่า 50 คนออกเพื่อให้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการประกันสังคมและระบบภาษีอากรเป็นเอกภาพ หลายวันมานี้ นายโยชิฮิโกะ โนดะยังได้กล่าวเน้นหลายครั้งว่า เขาได้เห็นถึงน้ำหนักของคำมั่นสัญญาที่ว่า "จะยุบสภาผู้แทนราษฎรในอีกไม่นาน" และจะทำตามคำพูดอย่างแน่นอน
ประการที่ 2 การยุบสภาฯ จะสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ชะงักงันทางการเมือง จากการสำรวจประชามติของสื่อญี่ปุ่นหลายแห่งแสดงให้เห็นว่าเสียงสนับสนุนคณะรัฐมนตรีของนายโยชิฮิโกะ โนดะ ตกลงต่ำกว่า 20% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นต้นมา ดังนั้น ถ้าหากไม่ยุบสภาฯ พรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคโกเมอิ อาจจะไม่ให้ความร่วมมือกับพรรคประชาธิปไตยในการผ่านร่างกฎหมายสำคัญฉบับต่างๆ อาทิ ร่างงบประมาณเพิ่มเติม เป็นต้น และอาจทำให้รัฐสภาเป็นอัมพาต การบริหารของรัฐบาลนายโยชิฮิโกะ โนดะก็จะดำเนินไปอย่างยากลำบากมาก
ประการที่ 3 การยุบสภาฯ คงมีส่วนช่วยอุดช่องว่างทางการเมือง
ของพรรคการเมืองฝ่ายที่ 3 ให้น้อยลง สื่อมวลชนญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า นายโยชิฮิโกะ โนดะน่าจะมีความเห็นว่า ถ้าหากไม่ยุบสภาฯ ภายในปีีนี้ พรรคการเมืองฝ่ายที่ 3 ที่นำโดยนายซินทาโระ อิซิฮาระ อดีตผู้ว่าการกรุงโตเกียวและนาย โตรุ ฮาซิโมโตะ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองโอซากาจะมีเวลาเตรียมการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ การนี้คงทำให้พรรคประชาธิปไตยแพ้ใหญ่ในการเลือกตั้งทั่วไปรอบใหม่
(Ton/Lin)