เป็นที่รู้กันดีว่า การดื่มน้ำชามีคุณประโยชน์หลายอย่าง แต่หากว่า ดื่มแบบผิด ๆ ประโยชน์เหล่านี้ก็จะกลายเป็นโทษทำร้ายสุขภาพของเราซะเอง วันนี้ ดิฉันจะพาไปเลือกใบชาที่เหมาะกับคุณที่สุดค่ะ
การดื่มน้ำชานอกจากต้องรู้บุคลิกของใบชาแล้ว ยังต้องดื่มตามฤดูกาลด้วย เพราะในแต่ละฤดูกาล สุขภาพร่างกายของเราจะไม่เหมือนกัน จีนมีทั้งหมด 4 ฤดูกาลใน 1 ปี ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ตามแผทย์แผนโบราณจีน ในแต่ละฤดูกาลควรดื่มน้ำชาที่ต่างกันด้วย
1. ฤดูใบไม้ผลิ
แผทย์แผนโบราณจีนเห็นว่า ในฤดูใบไม้ผลิ ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มสดใสมีชีวิตชีวา แต่อากาศยังแห้ง จึงควรเน้นการรักษาตับ ความหอมมีส่วนช่วยทำให้ระบบเส้นลมปราณมีความคล่อง เพราะฉะนั้น ฤดูใบไม้ผลิควรดื่มชาดอกไม้ต่างๆ ส่วนชาเขียวใหม่ๆ ในฤดูนี้จะมีความเย็นเกินไป ไม่เหมาะกับคนที่มีสุขภาพอ่อนแอ ความหอมของชาดอกไม้จะมีส่วนช่วยระบายความเย็นที่ค้างอยู่ในร่างกายจากฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านไป และสามารถทำให้มีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ เนื่องจากชาดอกไม้หลายอย่างมีประโยชน์ต่อตับ จึงจะทำให้ดีของเราแข็งแรงขึ้นด้วย เลยจะช่วยให้พวกเรารู้สึกสดชื่น อารมณ์ดี และหายง่วง
ชาดอกไม้ที่เหมาะกับดื่มในฤดูใบไม้ผลิ เช่น ชาดอกมะลิที่สามารถทำให้จิตใจสงบ ชาเก็กฮวยที่สามารถระบายสารพิษในร่างกาย ชาดอกกุหลาบที่ช่วยเลือดหมุนเวียน ชาไฮว่ฮวยที่แก้ความร้อนของเลือด และชาดอกสายน้ำผึ้งที่สามารถแก้ร้อนในและแก้พิษในร่างกาย เป็นต้น
2. ฤดูร้อน
ในฤดูร้อน อากาศร้อนจัด และชุ่มชื้น จึงควรเลือกชาที่สามารถแก้ความร้อนในร่างกายชนิดต่างๆ เช่น ชาเขียว ชาขาว ชาเหลือง และชาอู่หลงแบบหมักเบา สำหรับคนที่มีธาตุเย็น ขอให้เลือกชาชนิดหมักไม่เต็มที่เพราะมีบุคลิกไม่ร้อนและไม่เย็นเกินไป เช่น เถี่ยกวันอินเข้ม และชาเกาซานของไต้หวัน ถ้าเป็นคนสุขภาพแข็งแรง ชาผู่เอ่อร์ดิบที่เก็บไว้นาน 3-5 ปีก็เป็นการเลือกที่ดีเหมือนกัน
สำหรับคนที่มีธาตุร้อน เวลาดื่มชาเขียว แนะนำให้ใส่ดอกเก็กฮวย และดอกสายน้ำผึ้งด้วย จะยิ่งมีประโยชน์แก่ความร้อนอีก
3. ฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงของจีนเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงเดือนพฤศจิกายน ในช่วงนี้ อากาศค่อยๆ หนาวลง และแห้งเป็นพิเศษโดยเฉพาะในทางภาคเหนือของจีน จึงควรดื่มชาอู่หลง เพราะบุคลิกของชาอู่หลงอยู่ระหว่างชาเขียวกับชาดำ ไม่ร้อนและก็ไม่เย็น สามารถช่วยขจัดความร้อนที่ค้างอยู่ในร่างกายจากฤดูร้อนที่ผ่านมา อีกทั้งยังสามารถสร้างสมดุลน้ำให้ร่างกายด้วย เช่น ชาเถี่ยกวนอินเข้มที่ผลิตในปีเดียวกัน และชาต้าหงเผาที่ผลิตในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ชาขาวที่หมักนานก็เหมาะสมเช่นกัน เช่น ชาขาวที่เก็บไว้เป็นปี เป็นต้น
4. ฤดูหนาว
ในฤดูหนาว ทางภาคใต้ของจีนจะหนาวและชื้น ส่วนภาคเหนือของจีนจะแห้ง เพราะฉะนั้น ชาวภาคใต้และชาวภาคเหนือของจีนนิยมดื่มชาต่างกัน
ชาวภาคใต้ของจีนนิยมกินชาดำ และชาผู่เอ่อร์สุข เพราะจะใ้ห้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย คนที่ธาตุสมดุลหรือธาตุร้อน เวลาดื่มชาดำ สามารถใส่น้ำผึ้ง ส่วนคนที่ธาตุเย็น และมีอาการเย็นตรงมือและเท้า ขอให้ใส่น้ำตาลดำ หรือขิง
ส่วนชาผู่เอ่อร์สุกมีประโยชน์ขจัดความหนาวและรักษากระเพาะ อีกทั้งยังสามารถช่วยย่อยอาหาร และระบายมันตรงเอวด้วย
ชาวภาคเหนือของจีนนิยมดื่มชามะลิ ดอกมะลิมีบุคลิกค่อนข้างอุ่น จึงเหมาะกับกินในอากาศแห้ง เพราะจะทำให้ร่างกายอุ่น แต่ไม่ทำให้เกิดร้อนใน อีกทั้งยังมีประโยชน์ทำให้เจริญอาหารด้วย
ถึงแม้ว่าตามแผทย์แผนโบราณจีนควรดื่มน้ำชาตามฤดูกาล แต่ก็ยังมีคนชอบดื่มน้ำชาเฉพาะชนิดในตลอดทั้งปี สำหรับคนเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ชาทำลายสุขภาพ เวลาดื่มชาโปรดของตนก็ควรมีการปรับปรุงบ้าง เช่น
สำหรับคนที่ชอบดื่มชาเขียว ขณะเข้าสู่ฤดูหนาว ขอให้ดื่มชาแบบไม่เข้มข้น (ใส่ใบชาน้อยลง) และเพิ่มดอกมะลิแห้งหรือดอกไฮว่ฮวยแห้ง หรือไม่ก็ใส่ขิงลงไป ซึ่งสามารถช่วยอุ่นกระเพาะได้
สำหรับคนที่ชอบดื่มชาขาวในทั้งปี ขอให้เลือกใบชาชนิดต่างกันในแต่ละฤดูกาล เช่น ดื่มชาไป๋เหาอิ๋นเจินในฤดูใบไม้ผลิ ดื่มชาไป๋หมู่ตันในฤดูร้อน ชาก้งเหมยในฤดูใบไม้ร่วง และชาขาวเก่าในฤดูหนาว
สำหรับคนที่ชอบดื่มชาอู่หลง ในฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง สามารถเลือกชาเถี่ยกวนอินรสเข้ม ในฤดูร้อนดื่มชาเถี่ยกวนอินรสอ่อน และดื่มชาต้าหงเผาในฤดูหนาว
ส่วนคนที่นิยมชาผู่เอ่อร์ ถ้าสุขภาพดี ในเมื่ออากาศร้อนจัด สามารถเลือกชาผู่เอ่อร์ดิบ ส่วนเวลาอื่นก็ให้ดื่มชาผู่เอ่อร์สุก
เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้ชาที่เหมาะกับคุณมากที่สุดแล้วหรือยังคะ
Ying/Ldan
