"หมอกจางๆและควันคล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ อยากจะถามดูว่าเธอเป็นอย่างหมอกหรือควัน… " เพลงพี่เบิร์ดผุดขึ้นในสมองทันทีที่มองออกไปนอกหน้าต่างห้องในกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ปักกิ่งหน้าหนาวอย่างนี้มีหมอกลง นึกแล้วน่าจะเป็นความครึ้มๆ เย็นๆ ที่น่าสดชื่น เหมือนตอนไปเดินไต่เขาในหน้าหนาวของไทย แต่เหตุการณ์กลับไม่ใช่อย่างที่คาด เพราะหมอกที่ว่านี้สีน้ำตาลขมุกขมัวด้วยกลุ่มควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศ หากสูดเข้าไปเป็นแสบจมูก แล้วผงฝุ่นเหล่านั้นยังจะเข้าไปติดค้างในปอดเอาได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นผลกระทบต่อสุขภาพย่อมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และรวมไปถึงเรื่องอื่นๆ อย่างการจราจรบนท้องถนน...
การสัญจรไปมาท่ามกลางหมอกควันที่ปกคลุมบริเวณแยกเสวียนอู่เหมิน กรุงปักกิ่ง
เช้า 8 นาฬิกาของวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ลุงจ้าว อาชีพขับแท๊กซี่ ไปรับกะตามปกติที่ "สะพานซานหยวนเฉียว" ระหว่างขับมุ่งหน้าลงใต้มาตามถนนวงแหวนรอบสามของกรุงปักกิ่ง สายตาพยายามสอดส่ายหาผู้โดยสารมาเรื่อยๆ ช่วงแรกหมอกควันยังไม่หนานัก แต่ยิ่งขับลงใต้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งหนาหนัก มากขึ้นมากขึ้นทุกขณะ จนมาถึง "จิ้นซง" จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มสะพายกระเป๋าเป้วิ่งพรวดพราดออกมากลางถนน ขวางดักหน้ารถทำเอาลุงจ้าวตกอกตกใจ แต่ก่อนจะเอ่ยปากสั่งสอนอบรมให้รู้รักชีวิตตนเองและผู้อื่นบ้าง ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า "ไป "อี้จวง" ครับ" ชายหนุ่มว่ายืนโบกเรียกข้างทางแล้ว แท๊กซี่มองไม่เห็นโบกเรียกมาหลายคันไม่จอดรับสักคัน เขารอจนไม่ทันเวลาแล้วจึงต้องใช้วิธีเสี่ยงอันตรายแบบนี้
ปกติแล้วการเดินทางจากจิ้นซงไปอี้จวงในช่วงเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ การจราจรจะคล่องตัวและใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง เสียค่ารถแท๊กซี่ประมาณ 35 หยวนเท่านั้น แต่วันนั้นเพราะหมอกควันที่ปกคลุมหนาหนัก ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดเหลือแค่ประมาณ 30-50 เมตรเท่านั้น การขับรถจึงต้องไปอย่างช้าๆ ลุงจ้าวขับไปก็ต้องคอยแตะเบรคสลับไปมาเป็นระยะ และพอใกล้ถึงวงแหวนรอบสี่การจราจรก็ยิ่งเคลื่อนตัวไปได้ช้าจนเกือบถึงขั้นติดขัดเป็นอัมพาต เพราะข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุชนท้ายกันสามคันรวด วันนั้นกว่าลุงจ้าวจะส่งผู้โดยสารได้ตามเป้าหมายก็ต้องผจญรถติดและคลำทางอยู่นาน เพราะป้ายถนน ตึกอาคารที่บอกตำแหน่งได้ก็โดนบดบัง มองหากันไม่เจอ ต้องเสียเวลาสอบถามและขับรถวนหา รวมแล้วใช้เวลาไปถึง 1 ชั่วโมง 40 นาที มิเตอร์ค่าโดยสารพุ่งขึ้นไปถึง 77 หยวน
บรรยากาศเขตซีบีดี ศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงปักกิ่ง ยามเที่ยงวันที่ 11 มกราคม
รายงานระดับความคล่องตัวของการจราจรบนท้องถนนกรุงปักกิ่ง เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ 12 เวลา 18 นาฬิกาอยู่ระดับ 6.0 โดยการสัญจรภายในตัวเมืองไปจนถึงถนนวงแหวนรอบสี่ติดขัดอย่างหนัก ส่วนเย็นวันอาทิตย์ที่ 13 เวลา 17.25 น. การจราจรคล่องตัวดีอยู่ที่ระดับ 2.9 แต่พอถึงช่วงเร่งด่วนของเช้าวันจันทร์ที่14 หมอกควันยังคงไม่จางหายไป ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักพุ่งถึงระดับ 7.6 ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเร่งด่วนเวลาเดียวกันของเช้าวันจันทร์ที่ 7 อยู่ที่ระดับ 5.0 เท่านั้น