เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายสู่วันสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทของนักศึกษาจีนทั่วประเทศกันอีกครั้ง ซึ่งปีนี้กำหนดวันสอบเป็นวันที่ 5 มกราคมเลื่อนเร็วขึ้นจากเดิมประมาณครึ่งเดือน โดยมีจำนวนผู้สมัครสอบสูงเป็นสถิติใหม่ถึงราว 1,800,000 คน
บรรยากาศนับถอยหลังสู่สนามสอบ
ภายในห้องอ่านหนังสือ มหาวิทยาลัยอันฮุย เมื่อวันที่ 2 ม.ค.
แน่นอนว่าย่อมมีผู้สมัครสอบเข้าศึกษาต่อเพราะมีความใฝ่รู้เป็นทุน หวังหาวิชาความรู้ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หรืออาจเพื่อสานฝันตัวเองเข้าศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัยมีชื่อ และมีไม่น้อยก็เพื่อหนีแรงกดดันในการหางานทำ ซึ่งมหาวิทยาลัยบางแห่งก็สนับสนุนให้นักศึกษาเลือกศึกษาต่อ เพื่อ "อัตราการมีงานทำ" ของนักศึกษาที่จบจากสถาบันอีกด้วย
เหมือนอย่างหนุ่มแซ่โจว ที่ก่อนจบการศึกษาได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะหางานทำ แต่คิดไม่ถึงว่าพอผ่านไปเพียงครึ่งปีก็เลือกที่จะกลับเข้าไปศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัย แม้ว่าจะต้องรื้อฟื้นวิชาความรู้พื้นฐานและเฉพาะทางใหม่เพื่อเตรียมตัวสอบ แต่เขาก็รู้สึกว่าการกลับไปศึกษาต่อนั้น ให้ความรู้สึกดีกว่าการเคว้งคว้างเพราะหางานทำไม่ได้ หรือหาได้แต่เป็นงานที่ดูแล้วไม่มีความก้าวหน้าในอนาคต
พื้นที่ว่างตามขั้นบันไดและระเบียงทางเดินถูกจับจองเพื่อทบทวนวิชาความรู้
ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนลงสู่สนามสอบคัดเลือกศึกษาต่อระดับปริญญาโทประจำปี 2013
หรืออย่างสาวแซ่จู เธอมีหน้าที่การงานและเงินเดือนที่ไม่เลว มีตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ได้เงินเดือน 5,000 หยวน ถือเป็นที่น่าอิจฉาของคนรุ่นเดียวกัน แต่เธอกลับเลือกที่จะลาออกและสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท เธอว่าเพราะการทำงานในเซี่ยงไฮ้มีการแข่งขันสูง แรงกดดันที่ได้รับทำให้เธอนอนไม่หลับบ่อยๆ
และแม้ว่าการสอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อจะมีแรงกดดันเช่นกัน แต่ถ้าเทียบกันแล้วเธอว่าน้อยกว่าการทำงาน และเห็นว่าเป็นข้ออ้างที่ดีกว่าการไม่ทำงานแล้วอยู่บ้านเฉยๆ แล้วแถมยังช่วยเติมความรู้เพิ่มความสามารถในสาขาอาชีพให้กับตนเองได้อีกด้วย
แต่สำหรับผู้ที่สมัครสอบแบบมืดบอดไร้เป้าหมายที่แน่ชัด ย่อมไม่สามารถลดแรงกดดันจากการหางานทำได้ เพราะมหาวิทยาลัยไม่ใช่สถานที่หลบพักที่จะมุ่งศึกษาไปได้ตลอดชีวิต โดยไม่ออกมาเผชิญหน้ากับการหางานทำ จะได้ก็แค่เพียงยืดเวลาเพราะการหางานทำนับเป็นจุดหมายปลายทางของการจบการศึกษา แม้ว่าการสมัครสอบศึกษาต่อระดับปริญญาโทจะได้รับความนิยมมีความร้อนแรงมากแค่ไหนในสังคมจีน แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องจบออกมาเพื่อหางานทำอยู่ดี และเป็นไปได้ที่ความกดดันในครั้งก่อนจะถูกสะสมให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แทน