ข้อมูลจากงานการประชุมคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านพิพิธภัณฑ์ส่วนภูมิภาคแห่งสมาคมพิพิธภัณฑ์จีนประจำปี 2012 ที่เมืองไท่หยวน มณฑลซานซี เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่า จากการรวบรวมข้อมูลทางสถิติถึงปลายปี 2011 ประเทศจีนมีจำนวนพิพิธภัณฑ์ที่จดทะเบียนเท่ากับ 3,589 แห่ง เรียกได้ว่าโดยเฉลี่ยประชากรทุก 4 แสนคนจะมีหนึ่งพิพิธภัณฑ์ ซึ่งอัตราเพิ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ประมาณ 100 แห่งต่อปีอีกด้วย
กล่าวในอีกแง่ก็คือ ถือได้ว่าประเทศจีนจะมีจำนวนพิพิธภัณฑ์สถานเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1 แห่งต่อระยะเวลา 3 วันกว่า
อย่างที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าพิพิธภัณฑ์เป็นสถานที่ให้ความรู้แก่สาธารณะชน ดังนั้น การเพิ่มขึ้นจึงน่าจะถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ถ้ามองให้ลึกเข้าไปอีก การผุดขึ้นอย่างมากมายของพิพิธภัณฑ์ในประเทศจีนนี้ กลับนำไปสู่สถานการณ์น่าเป็นห่วงแฝงรวมไว้ด้วย เพราะพิพิธภัณฑ์ที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดนี้ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการก่อตั้งแต่ไม่ได้คำนึงถึงการบำรุงรักษา หรือดำเนินการให้ดำรงอยู่รอดต่อไปในระยะยาว
อาทิ พิพิธภัณฑ์จิ้นเฉิง มณฑลซานซี ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ 10 ปีก่อนด้วยงบประมาณการก่อสร้างถึง 38.87 ล้านหยวน แต่ปัจจุบันตกอยู่ในสภาพปิดทำการเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว เนื่องเพราะไม่มีทางสำหรับรถดับเพลิงกู้ภัย ไม่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย
หรือพิพิธภัณฑ์ทหารปาลู่จวินเขาไท่หัง มณฑลซานซี ก็ประสบปัญหาในการหาบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถด้านนี้เข้ามาบริหารจัดการงาน นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่ให้ความสำคัญแต่การดำเนินการก่อสร้าง ไม่ได้คำนึงถึงการบำรุงรักษาและดูแลจัดการ บ้างเพราะขาดปัจจัยด้านเงินทุน บ้างเพราะการขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญมาดูแลจัดการ ทำให้การวางแผนงานการจัดแสดงต่างๆ ให้ดีมีระดับเป็นเรื่องยากเอาการ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า รูปการณ์ทำนองนี้มีปรากฏอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีนจำนวนไม่น้อย
ดังนั้น ปัญหาการใช้งานพิพิธภัณฑ์สถานให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่ากับการมีอยู่ เป็นปัญหาสำคัญไม่น้อยโดยเฉพาะในระดับอำเภอ เนื่องเพราะเงินทุนสนับสนุนไม่พอ แถมไม่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยอีก ทำให้ต้องเก็บค่าเข้าชม ผลที่ตามมาคือ ปีหนึ่งๆ แทบไม่มีผู้เข้าชม
โดยถ้าเทียบกันกับเมื่อสิบปีก่อน เมื่อเอ่ยถึงพิพิธภัณฑ์คนจีนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า เป็นเรื่องที่ห่างไกลไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการใช้ชีวิตของคนในสังคม แต่ ณ ปัจจุบันกลับได้รับการสนใจและให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น จากรูปแบบแห้งๆ เหมือนกับตำราเรียนก็มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น และนับตั้งแต่พิพิธภัณฑ์สถานในท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศจีนส่วนใหญ่ได้เปิดให้เข้าชมฟรีตามนโยบายรัฐ ที่ต้องการเสริมหน้าที่สำคัญด้านการให้บริการแก่สาธารณะชนของพิพิธภัณฑ์มากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการศึกษา กระตุ้นการเรียนรู้และคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ปลูกฝังจิตสำนึกและคุณธรรม ตลอดจนแสดงความภูมิใจของท้องถิ่น เป็นต้น
ทำให้จำนวนผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั่วทั้งประเทศโดยเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 400 ล้านคน เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับก่อนเปิดให้เข้าฟรีในแต่ละแห่งราว 50 – 70 % ขณะเดียวกันประเภทของพิพิธภัณฑ์ก็มีความหลากหลายมากขึ้นด้วย คือ นอกจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา หรือทางศิลปะที่มีให้ได้ยินได้พบเห็นบ่อยๆ แล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง พิพิธภัณฑ์นิเวศวิทยา พิพิธภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น
และจากจำนวนพิพิธภัณฑ์ที่เพิ่มมากขึ้นก็เริ่มให้ความสำคัญในเรื่องการยกระดับคุณภาพตามไปด้วย นายสือจินหมิง ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์มณฑลซานซีกล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ในอดีตมักเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเสียส่วนใหญ่ มีลักษณะคล้ายกับตำราเรียน แต่ปัจจุบันพวกเราได้ทำให้พิพิธภัณฑ์มีความใกล้ชิดและเข้าถึงวิถีชีวิตของผู้คนมากขึ้น โดยเฉลี่ยแล้วปีหนึ่งมีการจัดนิทรรศการใหญ่ 15-20 ครั้ง เพื่อสนองความต้องการทางจิตวิญญาณที่เพิ่มขึ้นของผู้เข้าชม
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府