การวิ่งเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เป็นที่นิยมของผู้คน ซึ่งได้ถูกจัดเป็นหนึ่งในรายการการแข่งขันกีฬาของนักเรียนนักศึกษาจีนด้วย แต่ภายหลังการเกิดเหตุนักศึกษาหนุ่มวัยเพียง 21 ปี ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน "กว่างโจวมาราธอน 2012" ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้หมดสติล้มลงหลังวิ่งเข้าเส้นชัยและเสียชีวิตในท้ายที่สุด ต่อมามหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหัวจงได้ออกมาประกาศว่า ยกเลิกรายการแข่งวิ่งระยะ 3,000 เมตรหญิง และ 5,000 เมตรชายออกจากการแข่งขันกีฬาฤดูใบไม้ร่วง จึงนำไปสู่ข้อถกเถียงที่ว่า ต่อแต่นี้ไปการวิ่งระยะไกลจะต้องถูกตัดออกไปจากการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาและรายการแข่งขันกีฬาของนักเรียนนักศึกษาจีนแล้วหรือไม่
จากผลการตรวจสุขภาพของประชาชนจีนปี 2010 แสดงให้เห็นว่า สมรรถภาพทางกายของนักศึกษาจีน โดยเฉพาะในด้านขีดจำกัดความอดทนของร่างกายมีการลดต่ำลงเรื่อยๆ ดังนั้น การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของนักศึกษาหนุ่มที่เป็นข่าวกับการที่มหาวิทยาลัยประกาศงดรายการแข่งขันวิ่งระยะไกล จึงดูเสมือนเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกันอยู่ คือ การวิ่งระยะไกลเป็นสิ่งที่น่าจะทำร้ายผู้เข้าแข่งขันสมควรให้ยกเลิกไป แน่นอนเสียงคัดค้านย่อมมีตามมา เพราะเห็นว่าความคิดดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวกิจกรรมการวิ่งแข่ง แต่น่าจะเป็นการขาดความรู้ความเข้าใจในขีดจำกัดของตน หรือขาดการเตรียมความพร้อมทางร่างกายของผู้แข่งขันมือสมัครเล่นมากกว่า
การแข่งวิ่งมาราธอนที่เมืองกว่างโจว2012 เปิดฉากขึ้นในเช้าวันที่ 18 พ.ย. เวลา 7.30 น.
แบ่งเป็นวิ่งเต็มระยะทาง 42.195 กม. ครึ่งทาง 22.0975 กม. 10 กม. และมินิมาราธอน 5 กม.
มีผู้สมัครเข้าร่วมทั้งสิ้น 6,245 คน
ผู้เข้าแข่ง "กว่างโจวมาราธอน 2012" มีอาการผิดปกติทางร่างกายมากน้อยต่างกันไปเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,517 คน ที่มีอาการหนักสุดเป็นผู้แข่งขันชาย 2 คนในรายการวิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตรและ 10 กิโลเมตร โดยทั้งสองคนล้มหมดสติ มีอาการหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้น ซึ่งทีมแพทย์ได้เข้าให้ความช่วยเหลือทันที หนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่มวัย 21 ปี นามว่าเฉินเจี๋ย ภายหลังได้รับการกระตุ้นจนหัวใจกลับมาทำงานอีกครั้ง และต่อมาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้และได้จากไปในเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน ส่วนหนุ่มอีกคนแซ่ติง อายุ 25 ปี แม้จะยังไม่มีข่าวร้ายแต่อาการก็ยังอยู่ในขั้นอันตราย