เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ประกาศงบประมานโครงการจำนวน 2.2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 73,826 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมระหว่างปี 2013-2020 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไทยกล่าวว่า ในจำนวนดังกล่าว เงินกู้จำนวน 1.8 ล้านล้านบาทจะใช้เพื่อสร้างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทางคมนาคมด้านทางหลวง ทางรถไฟ ทางเรือ และทางอากาศ การลงทุนในอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุึนในส่วนภูมิภาค
ประเทศไทยอยู่ในศูนย์กลางการคมนาคมทางยุทธศาสตร์ของอาเซียน นอกจากการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับประเทศรอบข้างแล้ว สินค้าต่างประเทศที่ขนส่งผ่านไทยก็นับวันเพิ่มมากขึ้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า ผ่านการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นเหมือนประตูทางเข้าอาเซียน ส่งเสริมฐานะที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนในด้านภูมิประเทศ และเชื่อมกับจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศเอเชียอื่นๆ ผลักดันการพัฒนาเส้นเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และเส้นเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกในภูมิภาค ตามแผนการใหม่ไทยจะสร้างสายรถไฟความเร็วสูงทิศเหนือ-ใต้ 4 สาย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 3 สายจะมุ่งสู่เมียนมาร์ ลาว และมาเลเซีย ทำให้ไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีการคมนาคมติดต่อถึงกันเพิ่มขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญศูนย์วิจัยกสิกรไทยกล่าวว่า ไทยหวังที่จะเร่งการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อส่งเสริมโครงการเชื่อมโยงภายในอาเซียน พร้อมเชื่อมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกโดยมีไทยเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมความสัมพันธ์กับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขยายบทบาทของเศรษฐกิจส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจอาเซียนพัฒนาคึกคักมากที่สุดเท่านั้น หากยังจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของทั่วทั้งเอเชียด้วย
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์รายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวว่า การลงทุนสร้างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันและศักยภาพของไทย หวังว่า การลงทุนจะมีส่วนช่วยในการมีงานทำ การเพิ่มรายได้ การลดช่องว่างระหว่างคนรวย-คนจน และแก้ไขปัญหาความยากจน เป็นต้น
Yim/Ldan