วันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดเหตุการเมืองบนท้องถนนอีก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม เป็นผู้นำการชุมนุมเพื่อคัดค้านรัฐบาลที่กรุงเทพฯ โดยเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที ก่อนจัดการชุมนุม พล.อ.บุญเลิศให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะมีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 50,000 คน แต่จำนวนผู้เข้าร่วมจริงมีประมาณ 10,000 คน เย็นวันเดียวกัน พล.อ.บุญเลิศประกาศเสร็จสิ้นการชุมนุมครั้งนี้ ซึ่งได้ดำเนินไปหลายชั่วโมง
ก่อนหน้านี้ พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า รัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์มีการทุจริตและขาดความสามารถ ไม่เคารพพระราชวงศ์ และกำลังลากประเทศชาติเข้าไปสู่ความยากลำบากเรื่อยๆ ดังนั้น องค์การพิทักษ์สยามจึงตั้งใจจัดการชุมนุมครั้งนี้เพื่อโค่นรัฐบาลลงและกอบกู้ประเทศไทย
แต่สื่อมวลชนของไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของพล.อ.บุญเลิศ บ้างเห็นว่า การก่อเกมการเมืองบนท้องถนนเพื่อโค่นรัฐบาลนั้นไม่เพียงแต่ฝ่าฝืนการเมืองประชาธิปไตยเท่านั้น หากยังคงสร้างความปั่นป่วนแก่ประเทศอีก บ้างก็เห็นว่า พล.อ.บุญเลิศเป็นตัวแทนสิทธิประโยชน์ของผู้มีฐานะดีที่เสียอำนาจ ผู้คนเหล่านี้เข้าใจกันว่า ยากที่จะเอาชนะพรรคเพื่อไทยโดยผ่านการจัดการเลือกตั้งทั่วไป จึงหวังจะเล่นการเมืองบนท้องถนนเพื่อทำลายรัฐบาล และชิงอำนาจรัฐ แต่ปัจจุบัน ประชาชนและผู้นำกองทหารส่วนใหญ่หวังจะได้เห็นเสถียรภาพและการพัฒนาของประเทศ ไม่อยากให้สังคมไทยเกิดความวุ่นวายอีกแล้ว
อันที่จริง เมื่อเร็วๆนี้ ผลการหยั่งประชามติจากหลายองค์การต่างแสดงให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่แสดงความพอใจต่อการปกครองของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา และหวังจะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป
นักวิเคราะห์เห็นว่า ตั้งแต่รัฐบาลทักษิณถูกโค่นล้มลงเมื่อปี 2006 เป็นต้นมา การเมืองของไทยมีความวุ่นวายมาโดยตลอด เศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทยถูกกระทบอย่างร้ายแรง ประชาชนไทยมีความปรารถนาที่จะให้ประเทศชาติเข้าสู่หนทางการพัฒนาอย่างราบรื่น ไม่อยากมองเห็นกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองบนท้องถนนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งอีกแล้ว การเมืองบนท้องถนนของไทยกำลังเสียคะแนนจากประชาชน
Sun/Yim