เมื่อเร็วๆ นี้ นายเล เลือง มิงห์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการอาเซียนคนใหม่เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจีนที่สำนักงานใหญ่ของอาเซียนในกรุงจาการ์ตาโดยกล่าวว่า จีน-อาเซียนต้องกระชับการพูดคุยเจรจาและความร่วมมือกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างสองฝ่ายขึ้นสู่ระดับใหม่

นายเล เลือง มิงห์ แสดงความเห็นต่อสภาพการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อาเซียนในปัจจุบันว่า หลังจากจีนกลายเป็นประเทศหุ้นส่วนการพูดคุยเจรจาอย่างรอบด้านของอาเซียนเมื่อปี 1996 เป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อาเซียนได้พัฒนาคืบหน้าอย่างมาก การพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนการพูดคุยเจรจาระหว่างจีน-อาเซียนนั้นมีความรวดเร็วและสมบูรณ์มากกว่าการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนการพูดคุยเจรจาระหว่างอาเซียนกับประเทศอื่น ทั้งจีนและอาเซียนต่างใช้ความพยายามเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างสองฝ่าย โดยผ่านกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาคต่างๆ เช่น อาเซียน 10+1 อาเซียน10+3 การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และการร่วมแรงร่วมใจกันในการพิจารณาแก้ไขประเด็นที่ให้ความสนใจร่วมกัน

นายเล เลือง มิงห์ ยังกล่าวว่า อาเซียนชื่นชมจีนที่ได้ใช้ความพยายามในการส่งเสริมการสร้างสรรค์ความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียนและประชาคมอาเซียน เขาแสดงความเชื่อมั่นว่า อาเซียนมีความเข้มแข็ง มั่นคง สามัคคี และสันติภาพสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศเพื่อนบ้านของอาเซียน ซึ่งรวมทั้งจีนด้วย

เมื่อเดือนมกราคมปี 2012 จีนแต่งตั้งนางหยาง ซิ่วผิง เป็นเอกอัครราชทูตจีนประจำอาเซียน ต่อการณ์นี้ นายเล เลือง มิงห์ แสดงความเห็นว่า มีส่วนช่วยต่อการเสริมความร่วมมือและการประสานงานระหว่างจีน-อาเซียนให้มากขึ้น อาเซียนจะสร้างประชาคมทางเศรษฐกิจให้แล้วเสร็จภายในปี 2015 จีนและอาเซียนมีศักยภาพมากในการกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น การเชื่อมโยงทางคมนาคม การป้องกันภัยพิบัติ การป้องกันและควบคุมโรคระบาด การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม อีกทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย

การนำไปสู่อนาคตแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อาเซียน นายเล เลือง มิงห์ แสดงความเชื่อมั่นว่า จากการติดต่อระหว่างจีน-อาเซียนในระดับลึกยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายจะสามารถขับเคลื่อนการพูดคุยเจรจาและความร่วมมือให้คืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง และให้การพัฒนาความสัมพันธ์แบบทวิภาคีมีระดับสูงยิ่งขึ้น

สำหรับข้อตกลงว่าด้วยความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจรอบด้านระดับภูมิภาคที่กำลังดำเนินการเจรจาอยู่นั้น นายเล เลือง มิงห์ กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยผลักดันความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกให้มีระดับสูงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ข้อตกลงนี้ครอบคลุมถึงประเทศพัฒนาแล้ว ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศด้อยพัฒนา ด้วยเหตุนี้ การบรรลุข้อตกลงดังกล่าวจึงจะประสบกับการท้าทายหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม จากความคืบหน้าที่ปรากฎในขณะนี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศต่างๆที่เข้าร่วมการเจรจานั้นให้ความสำคัญกับข้อตกลงฉบับนี้เป็นอย่างมาก

(YING/cai)