ท่ามกลางอากาศอบอุ่นลมพัดสบายๆ ในกรุงปักกิ่ง บรรยากาศดูผ่อนคลายแต่ทว่าคุณนายลี่กลับยืนเหงื่อตกกระสับกระส่ายรอลูกสาวที่กำลังทำการสอบคัดเลือกหน้าสถาบันศิลปะการแสดงแห่งชาติ ทันทีที่ลูกสาวเดินออกมาจากห้องสอบ เธอก็รีบเข้าไปบอกว่า "เราไปหาคุณป้าดันดารากัน" หลังจากนั้นก็จูงมือกันเดินเบี่ยงไปทางถนนเล็กๆ และหยุดอยู่หน้าห้องพักขนาดเล็ก

คุณป้าดันดาราพูดคุยกับเด็กสาวที่เข้ามาอยู่ที่บ้าน

ห้องพักมีขนาด 9X9 เมตร ข้างในมีเตียง 2 ชั้นและตามมุมต่างๆ ก็มีข้าวของวางเรียงรายเต็มไปหมดจนไม่มีที่ว่างให้แม้แต่เดินได้เลย คุณป้าที่นั่งอยู่บนเตียงกลางห้องนั้นมีสมญานามว่า "คุณป้าดันดารา" ซึ่งนักเรียนการแสดงสาวสวยกว่าร้อยคนเคยพักอาศัยและอยู่ภายใต้การดูแลของเธอในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เธอมีชื่อจริงว่า "ม่า จุนเจิ้น" อายุ 60 ปี ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่สถาบันศิลปะการแสดงที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน และเป็นที่ผลิตบุคลากรวงการบันเทิงที่มีชื่อเสียงระดับชาติและโลกไม่ว่าจะเป็น กง ลี่ หรือ จาง ซื่อยี่ ล้วนจบการศึกษาจากสถาบันศิลปะการแสดงจากที่นี่ทั้งสิ้น ยิ่งทำให้สถาบันฯนี้เป็นความฝันของหนุ่มสาวจีนเท่านั้น ปีนี้ยังมีผู้สมัครชาวจีนโพ้นทะเลและชาวต่างชาติบินมาเพื่อสอบคัดเลือกโดยเฉพาะ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เพราะที่นี่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและสามารถเป็นสะพานสู่วงการบันเทิงระดับโลกได้

ปีที่แล้ว ม่าได้ให้ลูกของเพื่อนจากเมืองซีอานมาเช่าอยู่ด้วยขณะเตรียมตัวสอบเข้าคัดเลือกที่สถาบันฯ และก็สอบผ่านประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้ เด็กสาวส่วนใหญ่ต้องการจะสมัครเข้าเรียนต่อสาขาการแสดงแทบทั้งสิ้น จึงทำให้อัตราส่วนของการแข่งขันสูงมากตามลำดับต่อเนื่องกันทุกปี ปีนี้ทางสาขาฯสามารถรับนักศึกษาได้เพียง 50 คนจากผู้สมัคร 9,000 คน การเตรียมตัวก่อนสอบคัดเลือกจึงสำคัญมาก บางคนต้องเรียนการแสดงเพิ่มอย่างน้อย 2-3 เดือนล่วงหน้าก่อนสอบคัดเลือกในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี ส่วนใหญ่จะเรียนกับอาจารย์ที่เกษียณอายุจากสถาบันฯนี้ด้วย

บรรยากาศและหน้าตาของหนุ่มสาวที่มาสอบคัดเลือก

สำหรับ "อัน หยงฉาง" ลูกสาวของคุณนายลี่ที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดงเฉกเช่นเด็กสาวคนอื่นๆ และมุ่งหวังอยากจะเรียนที่สถาบันฯแห่งนี้ ก็ดั้นด้นมาจากเมืองฉางฉุนซึ่งมีระยะทางไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรจากปักกิ่ง เพื่อเข้ามาเรียนการแสดงเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวก่อนสอบคัดเลือกด้วยเช่นกัน คุณนายลี่เองก็ตกใจเล็กน้อยกับสภาพห้องที่ทรุดโทรมและคับแคบของคุณป้าดันดาราต้องอยู่กับเด็กสาวอีก 4 คนซึ่งจะต้องกางเตียงเสริมนอนในตอนกลางคืนกลางห้องแล้ว ห้องน้ำก็ไม่มี พวกเขาต้องออกไปใช้ห้องน้ำสาธารณะที่ตั้งอยู่ใกล้กับถนนแถวนั้นอีกด้วย แต่คุณนายลี่ก็ตัดสินใจที่จะให้ลูกสาวพักกับคุณป้าดันดาราเพราะมั่นใจกับกฏของการอาศัยอยู่บ้านนี้ 3 ข้อ ได้แก่ 1) ต้องไปเรียนทุกวัน 2) ต้องกลับบ้านก่อนห้าทุ่ม และ 3) อยู่ให้ห่างไกลยาเสพติด

ค่าเช่าและการพักอาศัยภายใต้การดูแลของคุณป้าดันดาราก็สนนราคาอยู่ที่ 900 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 4,500 บาท) คุณนายลี่คิดว่าไม่แพงเลยหากเทียบกับการที่ลูกสาวได้ฝึกฝนระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตร่วมกันผู้อื่นและที่สำคัญได้ผ่านความยากลำบากก่อนที่จะประสบความสำเร็จด้วย นับเป็นเรื่องที่ดีและมีคุณค่ามาก

คุณป้าดันดาราได้เห็นผู้สมัครเรียนมากมายเข้าออกบ้านของเธอทุกปี แต่ก็ไม่เคยมีเคล็ดลับพิเศษให้กับเด็กสาวที่เช่าบ้านเลย นอกจากประโยคที่บอกกับเด็กสาวจากความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาก่อนเข้าสอบคัดเลือกว่า "จงจินตนาการให้คณะกรรมการสอบคัดเลือกเหมือนแค่แตงโม 5 ผลตั้งอยู่บนโต๊ะเท่านั้น ทำอะไรพวกเธอก็ไม่ได้ แสดงให้เต็มที่เต็มความรู้สึก อย่าได้กลัว" และมีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณป้าดันดาราเคยบอกกับเด็กสาวที่พบกันครั้งแรกว่า "กลับบ้านไปเถอะ ยังไงก็ไม่มีทางสอบได้ เพราะเธอยังไม่พร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา" เด็กสาวคนนั้นถึงกับหลั่งน้ำตาทันทีหลังได้ยินและโกรธมาก จึงไม่ตัดสินใจจะอยู่ที่ห้องพักกับคุณป้าดันดาราและก็สอบคัดเลือกไม่ผ่านในที่สุด

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมบันเทิงทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์จีนกำลังเติบโตรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ใช่แค่บุคลากรในวงการบันเทิงเท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมนี้ คุณป้าดันดาราก็ได้รับผลประโยชน์จากความรุ่งโรจน์นี้เช่นกัน ขณะที่ลูกชายของเธอมีรายได้แค่ 2,000 หยวนต่อเดือน แต่รายได้ให้เด็กสาวเช่าบ้านสามารถทำรายได้ถึง 3,600 หยวนต่อเดือน และธุรกิจนี้ก็ได้สร้างความผูกพันระหว่างเธอกับเด็กสาวเหล่านั้นด้วย คุณป้าดันดาราเล่าว่า "พวกเธอมักพาแฟนหนุ่มมาแนะนำให้รู้จัก ให้ช่วยพิจารณา และหลังจากเลิกรากัน พวกเธอก็ต้องมาให้ฉันปลอบใจให้กำลังใจอีกเช่นกัน"

คุณป้าดันดาราไม่ใช่แค่ผู้ให้เช่าบ้านเอาแต่เงินจากเด็กสาวที่มีความฝันอยากเป็นดาราเท่านั้น เธอเองยังมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเด็กๆ พวกนี้อีกด้วย มีอยู่เหตุการณ์หนึ่ง เด็กสาวที่พักด้วย บอกว่า จะไปพบผู้อำนวยการผลิตโฆษณาเพื่อจะคัดเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ ผู้ชายคนนี้รับปากว่าจะมาส่งเด็กสาวก่อน 6 โมงเย็น คุณป้าดันดาราจึงปล่อยให้เด็กสาวไปกับเขา จนเวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืน และมีเด็กสาวคนอื่นโทรมาบอกว่า เห็นเด็กคนนี้กับผู้ชายที่โรงแรม เธอจึงรีบรุดไปที่โรงแรม และเมื่อพบผู้ชายคนนี้ เธอไม่ลังเลถึงชื่อเสียงเงินทองหรือสิ่งใด เพราะเธอได้ตบหน้าผู้ชายโกหกหลอกลวงคนนี้อย่างสาสม

บรรดารุ่นพี่จบจากสถาบันฯแห่งนี้และโลดแล่นในวงการบันเทิง

และเมื่อปี 2011 น้องชายของคุณป้าดันดาราเป็นมะเร็ง หนึ่งในเด็กสาวที่เคยอยู่กับเธอและตอนนี้เป็นนักแสดงแล้วด้วย ได้ส่งเงินมาช่วยเหลือจำนวน 10,000 หยวน และมีเด็กสาวหลายคนได้รวบรวมเงินจำนวนเกือบ 200,000 หยวนให้เธอด้วย สร้างความซาบซึ้งใจให้กับคุณป้าดันดารามาก

เธอยังเก็บสะสมรูปภาพของเด็กสาวที่เคยอาศัยอยู่กับเธอกว่า 100 คนที่ผ่านการสอบคัดเลือกได้เข้าเรียนต่อสถาบันศิลปะการแสดงไว้ในอัลบั้มอย่างสวยงาม หลังจากเรียนจบ บางคนก็ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งดวงดาวนี้สมใจหวัง บางคนก็ผิดหวังที่ไม่สามารถไปโลดแล่นในวงการบันเทิงได้สำเร็จ แต่สำหรับคุณป้าดันดาราแล้ว ได้พูดว่า "เด็กสาวทุกคนที่เคยอยู่กับเธอนั้น เป็นดั่งดวงดาวและทุกคนมีถนนที่สว่างไสวเป็นของตัวเองแล้วทุกคน"

สุชารัตน์ สถาพรอานนท์