พร้อมกับแผนการสำรวจดาวอังคารเข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติ มนุษย์จึงก้าวเข้าใกล้กับความฝัน "อพยพสู่อวกาศ" มากยิ่งขึ้น โครงการ "มาร์สวัน" ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไร ประกาศมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว มีผู้สมัครเข้าร่วมจำนวนกว่า 78,000 คนจากกว่า 120 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกสมัครเข้าร่วม ซึ่งสหรัฐฯ และจีนมีจำนวนผู้สมัครมากที่สุด
แผน "มาร์สวัน" เป็นแผนสำรวจดาวอังคาร ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัทเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะตั้งถิ่นฐานที่อยู่ของมนุษย์บนดาวอังคาร คาดว่าในปี 2023 จะส่งผู้สมัคร 4 คนขึ้นสู่ดาวอังคาร ซึ่งจะเป็นมนุษย์โลกกลุ่มแรกที่อพยพขึ้นอยู่บนดาวอังคาร หลังจากนั้นจะทยอยส่งผู้สมัครไปมากขึ้นภายในสองปี
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เดอะฮัฟฟิงตันโพสต์ และเว็บไซต์อวกาศของสหรัฐฯ รายงานว่า ตั้งแต่เริ่มต้นการรับสมัครเมื่อวันที่ 22 เมษายนเป็นต้นมา มีผู้ยื่นใบสมัครมาถึง 78,000 ใบภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นายบาส แลนส์ดอร์ป ผู้รับผิดชอบของแผนดังกล่าวนี้ กล่าวว่า ตัวเลขเหล่านี้แสดงว่า เราดำเนินการอยู่บนหนทางที่ถูกต้อง หวังว่าสามารถได้รับใบสมัครถึง 5 แสนใบในท้ายที่สุด
ปัจจุบัน ในจำนวนผู้สมัครที่ยอมละทิ้งชีวิตในโลก มีชาวสหรัฐฯ มากที่สุด ซึ่งมีจำนวน 17,324 คน รองลงมาเป็นประเทศจีน ซึ่งมีผู้สมัคร 10,241 คน ประเทศอังกฤษอยู่อันดับที่ 3 มีผู้สมัครจำนวน 3,581 คน ถัดลงไปเป็นรัสเซีย เม็กซิโก บราซิล แคนาดา โคลัมเบีย อาร์เจนตินาและอินเดีย
มีรายงานวิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญที่โครงการดังกล่าวได้รับความนิยมขนาดนี้คือ มีเงื่อนไขไม่สูง ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี เพียงเสนอข้อมูลพื้นฐานของตนเอง ตอบคำถามสำรวจบนเว็บไซต์ และแนบไฟล์วีดีโอแนะนำตนเองเวลา 1 นาที เพื่ออธิบายเป้าหมายที่ต้องการไปดาวอังคาร ส่วนเรื่องค่าสมัคร จะเก็บ 5-75 ดอลลาร์สหรัฐตามระดับความเจริญของประเทศ โดยผู้สมัครชาวสหรัฐฯ ต้องจ่ายค่าสมัครจำนวน 38 ดอลลาร์
นายบาส แลนส์ดอร์ป กล่าวว่า ผู้สมัครต้องมีสุขภาพแข็งแรงดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่มีโรคเรื้อรัง ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีจิตใจที่อยากรู้อยากเห็น มีความสามารถในเชิงนวัตกรรม และสามารถปรับตัวเข้ากับกลุ่มอย่างกลมกลืน และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมอย่างดี
ระยะเวลาการสมัครผ่านออนไลน์ของโครงการ "มาร์สวัน" จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 สิงหาคมปี 2013
Yim/Chu