เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว สังคมจีนเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญและสร้างความตกใจให้กับชาวจีนกับเหตุที่มีหมาขนาดใหญ่ สายพันธุ์ธิเบต หรือ Tibetan Mastiff กระโดดกัดคอเด็กหญิงวัย 3 ปีที่เมืองต้าเหลียน ขณะเดินเล่นอยู่กับแม่ริมถนน และเด็กหญิงรายนี้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เจ้าของหมาต้องยอมมอบหมารักของตัวเองให้กับตำรวจนำไปขังไว้เพื่อรอขั้นตอนดำเนินคดีทั้งเจ้าของและหมา ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ศาลก็ได้ระบุว่า คดีนี้ เจ้าของหมาต้องถูกดำเนินคดีในฐานที่ประมาทเลินเล่อที่ปล่อยให้หมาของตัวเองออกมาเพ่นพ่านและทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในสังคมจีน แต่เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วด้วยซ้ำกับการที่หมาขนาดใหญ่ทำร้ายผู้คนทั่วไปขณะเดินอยู่ในที่สาธารณะต่างๆ ก่อนหน้านี้ไม่นาน หมาใหญ่พันธุ์ธิเบตนี้ได้ถูกยิงตายเนื่องจากกระโดดทำร้ายผู้หญิงในมณฑลเสฉวนเมื่อศุกร์ที่ผ่านมาเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีคนถูกหมานี้ทำร้ายอีก 2 คนในกรุงปักกิ่งระหว่างเดินทางเท้าเช่นกัน

ศาสตราจารย์ด้านกฏหมายแห่งมหาวิทยาลัยการเมืองและกฏหมายของจีนได้ระบุว่า หากเกิดจากความตั้งใจของเจ้าของที่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของตัวเอง ทำร้ายผู้คนทั่วไปโดยที่ไม่ยอมห้ามปรามนั้น ควรต้องให้ดำเนินคดีถึงขั้นประหารชีวิตเพราะถือว่า เป็นการเจตนาทำร้ายผู้อื่นจนถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน คดีลักษณะนี้ ทางการจะดำเนินคดีกับเจ้าของหมาโดยให้ต้องโทษจำคุกสูงสุด 7 ปีในฐานที่ประมาทเลินเล่อ และการเลี้ยงหมาขนาดใหญ่ในจีนนั้นก็ถือว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่าหมาเล็กต่างๆ หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือ หมาใหญ่เหล่านี้แสดงถึงฐานะทางสังคมของผู้เลี้ยงว่า ร่ำรวยมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะหมาใหญ่พันธุ์ธิเบตซึ่งกำลังได้รับความนิยามจากเหล่าบรรดาเศรษฐีจีนขณะนี้ ราคาซื้อขายทั่วไปอยู่ที่ตัวละ 1.5 ล้านหยวน(ประมาณเจ็ดล้านห้าแสนบาทไทย) และราคาสูงสุดอยู่ที่ตัวละ 10 ล้านหยวน(ประมาณห้าสิบล้านบาท) และทางการได้ออกประกาศห้ามส่งออกหมาพันธุ์นี้ออกนอกประเทศแล้ว

ปัจจุบัน ทางการของเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น ไหโข่ว ไห่หนาน และกรุงปักกิ่ง ได้กำหนดกฏระเบียบในการจำกัดขนาดของหมาที่ต้องการเลี้ยงอย่างเข้มงวด และไม่อนุญาติให้หมาขนาดใหญ่ขยายพันธุ์เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้นอีก ทางด้านกองกำกับการตำรวจภูธรไหโข่วได้ประกาศห้ามการขยายพันธุ์หมาใหญ่ 29 สายพันธุ์รวมถึงหมาพันธุ์ทิเบตด้วย โดยได้จัดการสุ่มตรวจในวันเสาร์ที่ผ่านมา และหากผู้ใดฝ่าฝืนต้องถูกปรับเป็นจำนวน 2,000 หยวน (ประมาณ 10,000 บาท) ส่วนทางสำนักงานตำรวจประจำกรุงปักกิ่งก็ได้ประกาศจำกัดการเลี้ยงหมาขนาดใหญ่ 2 พันธุ์ ยกเว้นพันธุ์ที่ต้องถูกฝึกสำหรับการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ

ส่วนทางด้านกลุ่มปกป้องสิทธิสัตว์เลี้ยงก็แสดงความคิดเห็นว่า กฏระเบียบไม่ควรจำกัดเจาะจงเฉพาะหมาขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะหมาใหญ่บางพันธุ์ได้แก่ โกลเด้นรีทริฟเว่อและลาบาดอร์นั้นเป็นหมาที่มีจิตใจดี ไม่ดุร้ายและดูแลครอบครัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะต้องการเลี้ยงหมาขนาดใหญ่หรือเล็ก หน่วยงานที่รับผิดชอบควรต้องสร้างระบบสำหรับการฝึกอบรมการเลี้ยงดูและสื่อสารที่ถูกต้องให้เข้าใจเป็นอย่างดีก่อนกับเจ้าของทุกคน รวมถึงต้องนำหมาทุกตัวไปอบรมด้วย น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกได้

ไม่น่าเชื่อว่า แค่เรื่องหมาๆ ทำให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัวและถกเถียงเรื่องนี้ขึ้นในสังคมจีน การรักสัตว์นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเจ้าของนั้นสนใจแต่หมาของตัวเองไม่สนใจผู้คนรอบข้างก็อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนได้ อาจจะต้องถามตัวเองให้ชัดเจนก่อนว่า หากรักที่จะเลี้ยงหมา ขนาดของหมานั้นมีผลแค่ไหนกับความรักสัตว์และมีความสามารถดูหมาได้มากน้องเพียงใด

เพราะสังคมนี้ต้องการความรับผิดชอบและดูแลร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงต่างๆ และผู้คนทั่วไป

สุชารัตน์ สถาพรอานนท์