เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ร้านแมคโดนัลด์สาขาฉางอันมาร์เกต สาขาเก่าแก่แห่งที่สองในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เปิดทำการในกรุงปักกิ่งมาตั้งแต่ปี 1992 ต้องประกาศปิดร้านบอกลาไปอย่างถาวร โดยให้เหตุผลว่าเพราะครบกำหนดสัญญาที่ทำไว้เมื่อแรกแล้ว เรื่อยมาถึงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวร้านค้าสัญชาติต่างประเทศชื่อดังอีกแห่งอย่างสตาร์บัคส์ สาขาแรกของจีนที่เปิดมานานร่วม 14 ปี ก็ต้องโบกมือลาย่านทำเลทองของกรุงปักกิ่งไปอีกราย
ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ แห่งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดทำการที่ชั้น 1 ศูนย์การค้ากั๋วเม่า ย่านธุรกิจชื่อดังใจกลางกรุงปักกิ่งเมื่อปี 1999 ได้ออกมาประกาศปิดทำการโดยผู้รับผิดชอบให้เหตุผลว่า จะย้ายไปยังทำเลใหม่ในศูนย์การค้ากั๋วเม่าเฟสสาม ที่มีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองได้มากกว่าแทน แต่ข่าวจากวงในระบุว่าต้นเหตุสำคัญที่แท้จริงนั้นล้วนมาจากสู้ค่าเช่าที่ถีบตัวขึ้นสูงไม่ไหว
ข้อมูลสถิติระบุว่า นับจากปี 2008 เป็นต้นมา ค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในกรุงปักกิ่งเฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นปีละ 40% อัตราเติบโตสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ซึ่งค่าเช่าขยับเพิ่มสูงขึ้นแสดงให้เห็นถึงสถานะทางธุรกิจการค้าของปักกิ่งกำลังยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ปักกิ่งกลายเป็นเป้าหมายการมาลงทุนกอบโกยเงินทองจากบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ นั่นเอง
ในช่วงไม่กี่ปีนี้ บริษัททุนต่างชาติต่างแย่งกันลงยึดพื้นที่ตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการชาวจีนก็ค่อยๆ พัฒนาก้าวพ้นจากการเลียนแบบขึ้นเป็นผู้ถือครองส่วนแบ่งในตลาดได้แล้ว ทำให้การแข่งขันทางธุรกิจมีความดุเดือดตึงเครียดขึ้น บริษัททุนต่างชาติไม่น้อยมีผลประกอบการลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ค่าต้นทุนประกอบการ อาทิ ค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างแรงงาน กลับมีแต่เพิ่มขึ้นๆ ทำให้เกิดกระแสบริษัทต่างชาติต้องม้วนเสื่อกลับบ้านกันเป็นแถว
จากข้อมูลราคาค่าเช่าพื้นที่ร้านในศูนย์การค้ากั๋วเม่าเฟสแรก โดยเฉลี่ยตกตารางเมตรละกว่า 1,000 หยวนต่อเดือน ซึ่งสตาร์บัคส์สาขากั๋วเม่าต้องจ่ายค่าเช่าที่และค่าจ้างพนักงานรวมแล้วตกปีละกว่า 7 ล้านหยวน และจากรายงานผลประกอบการประจำปี 2012 ของสตาร์บัคส์เฉพาะร้านในเอเชียแปซิฟิกเท่ากับ 829,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากดูตามข้อมูลที่หยิบยกมานี้ แม้ว่าสาขากั๋วเม่าจะมีผลประกอบการไม่เลว แต่ก็ถือได้ว่าต้องเผชิญกับแรงกดดันในการประกอบการที่หนักหนาเอาการ
ช่วงสองปีนี้บรรดาบริษัททุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในจีนเมื่อสิบกว่าปีก่อน ล้วนต้องเผชิญกับการครบกำหนดสัญญาเช่าเดิมไปตามๆ กัน จากค่าเช่าเดิมที่ถูกหากต้องการต่อสัญญา ค่าเช่าก็จะขยับขึ้นตามสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาสินค้าในสังคมขยับเพิ่มขึ้น ดังนั้น การหมดสัญญาจึงเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้บริษัทต่างชาติต้องพากันปิดสาขาพับร้านไปตามๆ กัน
และนอกจากร้านสตาร์บัคส์แล้ว บริษัททุนต่างชาติที่ประกอบการด้านซุปเปอร์มาร์เกตก็ต้องเผชิญกับความกดดันจากเรื่องค่าเช่าที่เช่นกัน อย่างผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกต่างชาติ-คาร์ฟูร์ ในอนาคตสองปีข้างหน้าสาขาส่วนหนึ่งต้องเผชิญกับเรื่องครบสัญญาเช่าด้วยเช่นกัน จะหยุดหรือไปต่อนับเป็นบททดสอบความสามารถรองรับค่าเช่าที่ของกิจการต่างๆ
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府