เชื่อว่าหลายคนต่างเคยมีประสบการณ์แวะเข้าปั๊มเติมน้ำมัน แล้วได้กลิ่นเหม็นน้ำมันที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้า ระคายเคืองเยื่อบุจมูกไปตามๆ กัน ซึ่งสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในน้ำมันหากได้รับในปริมาณมากเป็นเวลานานก็ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพถึงขั้นก่อมะเร็งได้ นอกจากนี้ไอระเหยน้ำมันในอากาศนั้น เมื่อรวมกับสารไนโตรเจนออกไซต์ที่ถูกปล่อยออกมาจากท่อไปเสียรถยนต์ก็จะเกิดเป็นโอโซน เป็นมลภาวะทางอากาศ ซึ่งจีนได้ให้ความสำคัญและออกมาตราการคุมเข้มเรื่องนี้
ในอดีตมีปริมาณการปล่อยไอระเหยของน้ำมันอยู่ที่ 400 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร หลังติดตั้งระบบดูดเก็บแล้วลดเหลือเพียง 5 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะปักกิ่งที่เป็นเมืองหลวงและมีปัญหาเรื่องอากาศเสียเป็นข่าวให้ได้ยินได้ฟังอยู่บ่อยๆ ได้มีการออกมาตราการคุมเข้มปั๊มน้ำมันจำนวน 1,130 แห่งทั่วปักกิ่งว่า ต้องได้มาตรฐานปลอดกลิ่นเหม็นน้ำมัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากศูนย์ควบคุมการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ กรมรักษาสิ่งแวดล้อมกรุงปักกิ่งระบุว่า นับจากปี 2008 เป็นต้นมา ปั๊มน้ำมันทั่วกรุงปักกิ่งได้มีการติดตั้งระบบดูดเก็บไอระเหยน้ำมัน เพื่อยกระดับตามมาตรฐานปลอดกลิ่นเหม็นน้ำมันนี้แล้ว
ดังนั้น ทางหน่วยงานของปักกิ่งก็ได้เชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ หากไปใช้บริการเติมน้ำมันในปั๊มใดแล้วได้กลิ่นน้ำมันเหม็นมาก ก็แสดงว่าอุปกรณ์ดูดเก็บที่ติดตั้งมีปัญหา สามารถโทรศัพท์แจ้งเรื่องร้องเรียนปั๊มน้ำมันดังกล่าวได้ และหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้วว่ามีปัญหาจริงก็จะถูกตักเตือนหรือโดนโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 หยวน
พนักงานปั๊มกำลังแนะนำระบบดูดเก็บไอระเหยน้ำมันที่จะถูกส่ง
ลงไปยังถังเก็บใต้ดินหลังผ่านกระบวนการสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่
ทั้งนี้ กรมรักษาสิ่งแวดล้อมกรุงปักกิ่งได้ทำการตรวจสอบปั๊มน้ำมันทั่วเมืองอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา และในปีนี้ได้ทำการคุมเข้มยิ่งขึ้นโดยออกตรวจปั๊มน้ำมันทั่วเมืองเดือนละ 2-3 ครั้ง ซึ่งจากข้อมูลสถิติปักกิ่งมีไอระเหยน้ำมันในอากาศปีละ 20,000 ตัน หลังติดตั้งระบบดูดเก็บไอน้ำมันแล้วสามารถดูดเก็บกลับคืนได้กว่าร้อยละ 90 นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่ได้ผลอย่างดีในการลดมลพิษทางอากาศให้กับกรุงปักกิ่ง
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府