ระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคมนี้ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเดินทางไปเยือนมาเลเซีย สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ตามลำดับ นับเป็นครั้งแรกที่เขาเดินทางไปเยือนต่างประเทศหลังพรรคร่วมรัฐบาลชนะการเลือกตั้งสภาสูงญี่ปุ่น
ก่อนออกเดินทาง นายชินโซ อาเบะย้ำว่า วัตถุประสงค์ในการเยือนครั้งนี้คือ กระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น แต่เมื่อพิจารณาจากคำพูดและภารกิจระหว่างการเยือน 3 ประเทศดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะเห็นได้ชัดว่า นอกจากเน้นเรื่องการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศอาเซียนแล้ว ยังเน้นเรื่องญี่ปุ่นมีค่านิยมร่วมกันกับประเทศที่ไปเยือน เพื่อชวนให้ร่วมกันต่อต้านจีน
ด้านนายโยชิฮิเดะ สุกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า การเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของนายชินโซ อาเบะครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักจะกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศอาเซียน เพราะว่า ช่วงปีหลังๆ นี้ เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตอย่างรวดเร็ว
ขณะที่นายเฉิน กัง นักวิจัยของสถาบันเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐสิงคโปร์ กล่าวว่า อาเซียนมีความสำคัญมากสำหรับประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจึงต้องการผูกสัมพันธไมตรีระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศเหล่านี้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจ
นอกจากหวังผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ นายชินโซ อาเบะยังหวังผลประโยชน์ด้านอื่นๆ ด้วย เห็นได้จากคำพูด และภารกิจของเขาระหว่างเยือน 3 ประเทศดังกล่าว เช่น การหยิบยกข้อพิพาทดินแดนในภูมิภาคนี้ขึ้นมากล่าวถึง ไม่ว่าเยือนประเทศไหนก็ตาม พร้อมแสดงท่าทีว่าต้องการอยู่ร่วมกันกับจีนอย่างกลมกลืน เพราะญี่ปุ่นและจีนต่างเป็นประเทศที่มียอดมูลค่าเศรษฐกิจมหาศาลในเอเชีย ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจึงมีความสำคัญยิ่ง
ด้านสื่อมวลชนทั้งจีนและต่างประเทศวิเคราะห์ว่า ระหว่างการเยือนครั้งนี้ นายชินโซ อาเบะหยิบยกข้อพิพาทดินแดนในเกาะเตี้ยวอี๋ว์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นขึ้นมาพูดบ่อยครั้ง อีกทั้งมุ่งมั่นประโคมเรื่องจีนคุกคาม เพื่อสร้างกระแสต่อต้านจีน เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และประเทศในเอเชียตะวันออกที่มีข้อพิพาทดินแดนกับจีน
เครือข่ายการสื่อสารมวลชนของ ฟิลิปปินส์ (GMA)รายงานวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ระหว่างเยือนฟิลิปปินส์ นายชินโซ อาเบะสัญญาว่า จะจัดสรรเรือลาดตระเวนชายฝั่ง 10 ลำให้แก่ฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ทั้งสองประเทศยังจะกระชับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ และความมั่นคงทางทะเล ซึ่งหนังสือพิมพ์ เหลียนเหอเจ่าป้าว ของสิงคโปร์วิเคราะห์ว่า ญี่ปุ่นต้องการช่วยฟิลิปปินส์สร้างกองกำลังทางทะเลที่สามารถรับมือกับจีนได้ อีกทั้งจะรักษาบทบาทของญี่ปุ่นในทะเลจีนใต้
สื่อมวลชนทั้งจีนและต่างประเทศส่วนใหญ่เห็นว่า ยุทธศาสตร์ผูกมิตรกับประเทศที่ห่างใกล เพื่อร่วมกันต่อต้านจีนของผู้นำญี่ปุ่นยากที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะยุทธศาสตร์นี้จะไม่ได้รับการสนับสนุน
จากประชาคมโลก ถึงแม้ว่าประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ และเงินทุนจากญี่ปุ่นก็จริง แต่ไม่ต้องการร่วมกับญี่ปุ่นมาต่อต้านจีน แม้กระทั่งสหรัฐฯ ที่เป็นประเทศพันธมิตรของญี่ปุ่นก็ยังแสดงความกังวลต่อปัญหาที่ญี่ปุ่นไม่ยอมรับผิดเรื่องการบังคับให้ผู้หญิงไป "บำเรอกาม" แก่ทหารญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และกรณีที่ญี่ปุ่นมุ่งมั่นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
(nune/cai)