การประชุมครั้งนี้ได้วางแผนสำคัญเพื่อปฏิรูปรอบด้านในระดับลึก นายเซี่ย ตุ้งหมิง นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของธนาคาร OCBC เห็นว่า ผลการประชุมครั้งนี้มีประเด็นที่น่าสนใจ 5 ประการ คือประการแรกตลาดจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดและนำทิศทางเศรษฐกิจ การยกระดับตลาดจากขั้นพื้นฐานให้สูงขึ้น หมายถึงรัฐบาลจีนมีความตั้งใจจะมีก้าวก่ายตลาดน้อยลง
ประการที่ 2 จัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลและรับผิดชอบการปฏิรูป แสดงว่ากลุ่มผู้นำชุดใหม่มีความตั้งใจจะส่งเสริมการปฏิรูป
ประการที่ 3 ปฏิรูปทางการคลัง
ประการที่ 4 ปฏิรูปที่ดินเพื่อให้เป็นผลดีต่อเกษตรกร
ประการที่ 5 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้มีความเที่ยงธรรมมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ บางกอกโพสต์ รายงานว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำให้ตลาดมีบทบาทนำในการจัดสรรทรัพยากรภายใน 10 ปีข้างหน้า หมายถึง เขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 2 ของโลกจะปฏิรูปโดยสิ้นเชิงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้นโยบายที่จีนประกาศใช้ที่ผ่านมา ตลาดมีบทบาทเป็นเพียงระดับพื้นฐานมาโดยตลอด แต่การประชุมครั้งนี้ ทำให้ตลาดมีบทบาทนำมากขึ้น หมายถึงจีนจะปล่อยให้ตลาดมีความคึกคักยิ่งขึ้น
หนังสือพิมพ์ สื้อเจี้ยรึเป้า ของไทยลงบทนำว่า ถือเป็นป้ายบอกระยะทางหรือหลักไมล์ของการปฏิรูปหลังปี 1978 ประชาคมโลกตั้งความหวังกับการประชุมครั้งนี้อย่างมากเพราะได้กำหนดหลักนโยบายและแนวทางปฏิรูปทางเศรษฐกิจ เพื่อนำประเทศจีนก้าวหน้าไปสู่การเป็นประเทศเทคโนโลยีระดับสูงที่มั่งคั่ง
ดร. วรศักดิ์ มหัทธโนบล จากศูนย์จีนศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นว่า ถ้าพิจารณาจากระดับระหว่างประเทศ การที่จีนเพิ่มขีดความสามารถการบริหารงานของรัฐบาลอย่างมีผลนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการติดต่อระหว่างจีนกับประเทศที่มีระบอบการเมืองต่างกัน ลดช่องว่างระหว่างกัน และเป็นกรณีศึกษาสำหรับประเทศที่มีระบอบใกล้เคียงกัน
สื่อมวลชนเวียดนามให้ความสนใจต่อการประชุมครั้งนี้อย่างมาก โดยเน้นเรื่องการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ เห็นว่าการประชุมครั้งทำให้จีนเจ้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการพัฒนา จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก
Nune/Lr