จากที่ครั้งก่อนเอ่ยถึงมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่ โดยเจาะจงต่อผู้นำและเจ้าหน้าที่รัฐของจีน ให้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
มาดูกันถึงเรื่องของสถานการณ์การสูบบุหรี่ของนักเรียนนักศึกษาจีนกันบ้าง โดยรายงานผลการไปสังเกตการณ์โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพื่อประเมินผลสภาพแวดล้อมไร้ควันบุหรี่ ในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของจีนจำนวน 800 แห่งทั่วประเทศประจำปี 2013 ที่ประกาศผลเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ปรากฏว่า มีร้อยละ 24.25 ที่มีสภาพแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ได้คะแนนเกินกว่า 60 นับว่าเพิ่มขึ้น 6.87 จุดเมื่อเทียบกับปี 2012 ซึ่งสถาบันการศึกษาที่ได้คะแนนสูง 20 อันดับแรก เป็นสถานศึกษาในปักกิ่ง 9 แห่ง
ทั้งนี้ จากการทำสำรวจดังกล่าวยังพบว่า ปีนี้มีการติดป้ายสัญลักษณ์การห้ามสูบบุหรี่ และขจัดโฆษณาเกี่ยวกับบุหรี่ในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น โดยในปี 2011 มีเพียงร้อยละ 56.5 เท่านั้นที่มีการติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ และเมื่อเทียบกับปี 2012 แล้วปรากฏว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยเปอร์เซนต์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการสูบบุหรี่ภายในอาคารและมีปริมาณนักศึกษาที่สูบบุหรี่ลดน้อยลง แต่จากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ยังมีสถาบันศึกษากว่าร้อยละ 70 ได้คะแนนไม่ถึง 60 ซึ่งถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ โดยคะแนนต่ำสุดได้เพียงร้อยละ 18.39 เท่านั้น ซึ่งบริเวณโรงอาหารและหอพักนักศึกษาชาย ยังคงเป็นแหล่งรวมสิงห์อมควัน โดยในจำนวนสถานที่ที่พบว่ามีการสูบบุหรี่ทั้งสิ้น 4,457 แห่ง การสูบในโรงอาหารเป็นสัดส่วนสูงสุดถึงร้อยละ 30.5 รองมาคือหอพักชายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.16
นักศึกษาส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า การสูบบุหรี่นั้นถือเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกในการคบค้าสมาคม ช่วยลดช่องว่างให้คนที่ไม่เคยคุ้นกัน มีความใกล้ชิดเป็นกันเองได้ง่ายขึ้น เห็นว่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เฮฮาปาร์ตี้กันได้อย่างถึงรสถึงชาติกว่า หรือจากที่การเรียนในสมัยมัธยมปลายมีความกดดันสูง เพราะต้องเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้บางคนอาศัยบุหรี่เป็นตัวช่วยผ่อนคลาย นานวันเข้าก็ติด
ดังนั้น แม้ว่าผลโดยรวมจะออกมาว่ามีการควบคุมที่ได้ผลมากขึ้น แต่หน่วยงานของรัฐบาลจีนก็ตระหนักดีว่ายังคงประสบกับความยากลำบากใหญ่หลวง มีจำนวนสถาบันการศึกษาที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาก และผลคืบหน้าที่ไม่สมดุล บางมณฑลเฉลี่ยแล้วได้คะแนนแค่ 30 บางมณฑลถึงกับไม่มีสถาบันใดผ่านเกณฑ์เลยด้วยซ้ำ อาทิ ในมณฑลฝูเจี้ยน ไม่มีสถาบันใดผ่านเกณฑ์เลยในจำนวน 22 สถาบัน แสดงถึงว่าหน่วยงานรับผิดชอบด้านการศึกษาของมณฑล และอธิการบดีมหาวิทยาลัยยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าที่ควร
แต่เชื่อว่าเมื่อมาตรการให้ผู้นำเป็นแบบการไม่สูบบุหรี่ออกมาเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่เพิ่งมาผ่านแล้ว ผลการตรวจสอบปีหน้าคงได้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีเพิ่มขึ้นมาก ที่รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังสำคัญของชาติด้วยแน่นอน
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府