ซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ ทหารอินโดนีเซียประกาศว่า จะใช้ชื่อนายทหารนาวิกโยธินสองนายมาตั้งชื่อเรือรบที่เพิ่งซื้อจากอังกฤษ แต่เนื่องจากทหารทั้งสองนายเกี่ยวพันกับกรณีที่ก่อเหตุระเบิดที่ถนนออร์ชาร์ดสิงคโปร์เมื่อปี 1965 ดังนั้น สิงคโปร์จึงแสดงการคัดค้านอย่างแข็งกร้าว เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมานี้ พลเอกโมเอลโดโก ผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโดนีเซียได้กล่าวขออภัยต่อกรณีนี้ ขณะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งเอเชียของสิงคโปร์
เมื่อต้นปีนี้ เรือฟรีเกต 3 ลำที่อินโดนีเซียสั่งซื้อจากอังกฤษได้ถูกส่งมอบถึงท่าเรืออินโดนีเซีย ตามประเพณีนิยมของอินโดนีเซีย จะใช้ชื่อวีรบุรุษที่เสียชีวิตในสงครามมาตั้งชื่อเรือรบลำใหม่ เพื่อสืบทอดแนวความคิดของวีรบุรุษ แต่การตั้งชื่อครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดความสนใจในหมู่ชาวสิงคโปร์ เพราะมีสองชื่อเกี่ยวพันกับเหตุระเบิดที่ถนนออร์ชาร์ดของสิงคโปร์เมื่อปี 1965 ในเหตุระเบิดครั้งนั้น ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 33 คน และทหารสองนายดังกล่าวถูกสิงคโปร์ลงโทษแขวนคอ
กรณีการตั้งชื่อดังกล่าวเมื่อเผยออกมา ทางสิงคโปร์ไม่ว่าชั้นผู้นำหรือชาวบ้านธรรมดาล้วนแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เนื่องจากอินโดนีเซียได้ใช้ท่าทีที่แข็งกราวและคิดว่าเป็นเรื่องของตน ประเทศอื่นไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย เรื่องนี้ค่อยๆเงียบลง แต่ที่ประชุมว่าด้วยความปลอดภัยที่กรุงจาการ์ตาที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ทหารอินโดนีเซียสองนายแต่งกายเป็นทหารที่ถูกสิงคโปร์ลงโทษบุกไปยังที่ประชุม ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมจากสิงคโปร์รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ถอนตัวออกจากการประชุม และปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมต่อ และทำให้กรณีการตั้งชื่อเรือรบปะทุขึ้นอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ พลเอกโมเอลโดโก ผู้บัญชาการทหารสูงสุดอินโดนีเซียจึงออกหน้า ขออภัยต่อกรณีนี้ และเน้นว่า การกระทำของกองทัพอินโดนีเซียไม่มีเจตนาร้าย และไม่มีความมุ่งหมายจะก่อความไม่พอใจให้ชาวสิงคโปร์ ทหารอินโดนีเซียได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็กล่าวว่า เรือฟรีเกตสองลำดังกล่าวจะใช้ชื่อเดิมต่อไป เพราะได้ตั้งชื่อไปแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมปี 2012
ต่อกรณีการขอโทษของผู้บัญชาการสูงสุดทหารอินโดนีเซียนั้น ปัจจุบันสิงคโปร์ยังไม่มีเสียงสะท้อนอะไรออกมา ผู้สังเกตุการณ์เห็นว่า นี่เป็นเพียงข้อขัดแย้งเล็กน้อย ความร่วมมือด้านทหารระหว่างสิงคโปร์กับอินโดนีเซียยังมีลักษณะใกล้ชิดยิ่งขึ้น เมื่อเร็วๆนี้ อินโดนีเซียยังเชิญสิงคโปร์ไปเข้าร่วมการซ้อมรบของทหารเรือภาใต้รหัสโคโมโด(Komodo) พลเอกโมเอลโดโก ก็กล่าวว่า อินโดนีเซียกับสิงคโปร์ล้วนเป็นสมาชิกอาเซียน มีความต้องการและเป้าหมายเดียวกัน เชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ทั่วไปและความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสองประเทศจะแน่นแฟ้นขึ้นบนพื้นฐานความไว้วางใจ ชื่อถือและเคารพซึ่งกันและกัน
In/LJ
