ช่วงนี้มีสารคดีเรื่องหนึ่งกำลังแพร่ภาพสถานีโทรทัศน์ของจีน เป็นที่นิยมชมชอบของชาวบ้านทั่วไปคือสารคดีเรื่อง《舌尖上的中国2》แปลเป็นไทยคือว่ากินในจีนตอนที่ 2 ได้โชว์อาหารจากธรรมชาติที่เอร็ดอร่อยมากมาย นอกจากเป็นอาหารที่หายากแล้ว ยังมีอาหารธรรมดาที่ชาวบ้านไม่ควรละเลยในแต่ละวัน เช่น ข้าวสาลีหรือผัดสกชนิดต่างๆ วัตถุดิบดังกล่าวหลังนำมาปรุงแล้ว จะกลายเป็นอาหารที่เรากินกันทุกวัน ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างการของเรา และทำให้พวกเราสามารถเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมต่างๆได้ และมีผู้ยอมนั่งหน้าจอทีวีเพื่อติดตามสารคดีชุดนี้มากมาย ถ้าพลาดยังพากันไปหาดูบนเน็ตอีก เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับกระทรวงที่ดินและทรัพยากร ธรรมชาติจีนแถลงการณ์ร่วมกัน โดยเปิดเผยผลการสำรวจมลพิษในดินทั่วประเทศเป็นครั้งแรก โดยระบุว่า ปัญหามลพิษในดินทั่วประเทศจีนค่อนข้างรุนแรง ที่สำคัญเนื่องมาจากการระบายของเสียจากเหมืองแร่และอุตสาหกรรม
รายงานฉบับนี้ระบุว่า อัตราดินปนเบื้นสารเคมีทั่วประเทศของจีนสูงถึง 16.1% ในจำนวนนี้ เป็นดินปนเปื้อนสารเคมีน้อยมาก11.2% ปนเปื้อนน้อยประมาณ 2.2 ปนเปื้อนปานกลาง 1.5% และปนเปื้อนค่อนข้างมากประมาณ 1.1%
ถ้ามองการแพร่กระจายของดินแดนปนเปื้อนสารเคมีทั่วประเทศจีนจะเห็นได้ว่า ภาคใต้มีสภาพหนักกว่าทางภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำยางซีเจีย ดินดอนสามเหลี่ยนแม่น้ำจูเจียง ตลาดจนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งในอดีตเป็นฐานอุตสาหกรรมมีปัญหาดินปนเปื้อนค่อนข้างหนัก ขณะเดียวกัน พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญของจีนด้วย ซึ่งผลผลิตทางการเกษตรคงอาจจะปนเปื้อนสารเคมีด้วย
นายลั่ว เจี้ยนหัว เลขาธิการสมาคมสิ่งแวดล้อมสหพันธ์อุตสาหกรรมและพาณิชย์กรรมแห่งชาติจีนกล่าวว่า นานมาแล้ว มนุษย์รู้จักแต่ใช้ประโยชน์จากดิน โดยไม่สนใจอนุรัษย์ดินหรือให้เวลาฟื้นฟูดิน
นาของจีนถูกปนเปื้อนด้วยสารเคมี ซึ่งเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของอาหารในจีน เพื่อรักษาความปลอดภัยของอาหาร เราจำต้องรักษาความปลอดภัยของดินก่อน
ผู้รับผิดชอบของกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับกระทรวงที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติจีนกล่าวว่า ดินปนเปื้อนด้วยสารพิษหมายถึง ดินที่ถูกกัดเซาะด้วยฝนกรดหรือสารพิษในน้ำเป็นเวลานาน ทำให้สภาพทางกายภาพของดินเกิดการเปลี่ยนแปลงและสูญเสียศักยภาพการผลิต จนทำให้ผลิตผลการเกษตรอาจจะเป็นโทษต่อมนุษย์หรือสัตว์ 2. ด้วยผลกระทบจากการกัดเซาะของสารเคมีของเสียจากโรงงานและของเสียจากเหมืองแร่เป็นต้น ลักษณะทางกายภาพของดินแเกิดการเปลี่ยนแปลง และไม่เหมาะที่จะเพาะปลูกหรือการดำเนินชีวิตอีก แหล่งมลพิษสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ มลพิษทางอุตสาหกรรม มลพิษจากการคมนาคมขนส่ง มลพิษจากการเกษตรและมลพิษจากการดำเนินชีวิตเป็นต้น
จากผลการสำรวจจะพบว่า ในจีน มลพิษจากอุตสาหกรรมที่สำคัญคือการระบายของกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม รวมทั้งการระบายกากของเสีย น้ำเสีย และแก๊สเป็นต้น ซึ่งจะปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมทั้งทางอากาศ น้ำ และดินด้วย การระบายของเสียของอุตสาหกรรมที่สำคัญคือฝุ่นอุตสาหกรรม ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นต้น เป็นราว 3 ใน 4 ของสารที่ปนเปื้อนในอากาศ น้ำเสียจะระบายสู่แม่น้ำและทะเลโดยตรง จนทำให้น้ำถูกปนเปื้อนมลพิษเช่นกัน น้ำเสียยังซึมเข้าในดินจนปนเปื้อนพื้นที่เพาะปลูกและปนเปื้อนผลผลิตการเกษตรด้วย กากของเสียจากอุตสาหกรรมไม่เพียงถูกระบายสู่พื้นที่กว้างใหญ่เท่านั้น ของเสียเหล่านี้ยังอาจจะผสมกับน้ำและซึมลงดิน และอาจจะก่อมลพิษครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ต่อ พร้อมๆกับการพัฒนาการคมนาคม ยานยนต์ชนิดต่างๆเพิ่มขึ้นมากมาย จนทำให้มีไอเสียจากรถยนต์เพิ่มขึ้นรวดเร็ว สถิติแสดงว่า ปี 2011 ไอเสียจากรถยนต์ทั่วประเทศจีนคิดเป็น 46.079 ล้านตัน มากกว่าปี 2010 ประมาณ 3.5% ในจำนวนนี้ เป็นสารไนโตรเจนออกไซด์ 6.375 ล้านตัน ฝุ่นละออง 6.2 แสนตัน สารไฮโดรคาร์บอน 4.41 ล้านตัน คาร์บอนมอนนอกไซด์ 34.671 ล้านตัน ไอเสียจากรถยนต์ไม่เพียงแต่จะปนเปื้อนในอากาศเท่านั้น ยังผสมกับน้ำ และปนเปื้อนในน้ำและดินด้วย ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนก็อาจก่อให้น้ำเสียและขยะไม่น้อย เช่น การทิ้งถ่านไฟไม่เหมาะเป็นต้น ล้วนอาจจะก่อมลพิษแก่น้ำและดินด้วย ในกระบวนการเพาะปลูกก็เช่นกัน เพื่อให้ได้ผลการเก็บเกี่ยวที่สมบูรณ์จึงใช้วิธีการต่างๆ เช่น ใช้ฟิล์มพลาสติกปูพื้น ฉีดยาฆ่าแมลงหรือใส่ปุ๋ยเคมีมากเกินไป เป็นต้น ล้วนเป็นการก่อมลพิษแก่ดิน น้ำและบรรยากาศ จนทำให้ผลผลิตการเกษตรถูกปนเปื้อนอย่างหนัก มีคุณภาพลดลง จนก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เนื่องจากหว่งโซ่อาหารเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น ปีหลังๆนี้จะเห็นโรคใหม่ๆออกมากมากมาย เป็นต้น