ระหว่างการประชุม สองฝ่ายต่างประเมินค่าอย่างสูงต่อผลสำเร็จของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา ย้ำว่าจะส่งเสริมการไปมาหาสู่กันระหว่างผู้นำชั้นสูงและระดับต่างๆ และผู้นำประเทศทั้งสองจะมีการแลกเปลี่ยนรูปแบบการเยือน การพบปะ การติดต่อทางโทรศัพท์ และวิธีอื่นๆ ด้วย
ในการเจรจาทางเศรษฐกิจ สองฝ่ายต่างเห็นด้วยที่จะเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาค กระชับความร่วมมือภายใต้กรอบกกลุ่มจี 20 ผลักดันการปฏิรูปและบริหารระบบการเงินระหว่างประเทศ
สองฝ่ายเห็นด้วยที่จะใช้ความพยายามบรรลุความเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับปัญหาและมาตรการสำคัญของข้อตกลงว่าด้วยการลงทุนทวิภาคีก่อนสิ้นปี 2014 ฝ่ายสหรัฐฯ รับปากว่าจะเปิดรับนักลงทุนชนิดต่างๆ จากจีนให้เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ
ด้านกระชับความร่วมมือทางการเงิน สหรัฐฯ รับปากว่าจะให้สิทธิเสมอภาคแก่จีนในกระบวนการปฏิรูประบบควบคุมการส่งออก ส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์นิวไฮเทคที่ใช้ในทางพลเรือนต่อจีนมากยิ่งขึ้น
สองฝ่ายต่างเห็นด้วยที่จะใช้ความพยายามเพื่อสร้างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีความมั่นคง สันติภาพและเจริญรุ่งเรือง จะเสริมการแลกเปลี่ยนและประสานงานเกี่ยวกับกิจการเอเชียแปซิฟิก โดยเห็นว่า จีนและสหรัฐฯ ต่างมีภาระหน้าที่ในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงของโลก โดยจะหารือและประสานงานเป็นระจำเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆ อาทิ ปัญหานิวเคลียร์ของคาบสมุทรเกาหลี ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน และปัญหาอัฟกานิสถาน เป็นต้น
จีนเน้นว่า สองฝ่ายควรให้ความเคารพอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน และการคัดเลือกหนทางการพัฒนาของอีกฝ่ายหนึ่ง แก้ไขข้อขัดแย้งด้วยรูปแบบเชิงสร้างสรรค์ ทั้งนี้ จีนได้เน้นย้ำจุดยืนหลักของตนในปัญหาไต้หวันและทิเบต
นอกจากนั้น จีนยังได้ย้ำจุดยืนของหลักการในปัญหาทะเลตะวันออกจีนและทะเลจีนใต้ เรียกร้องสหัฐฯ ใช้จุดยืนที่เที่ยงธรรมและเชิงภววิสัย ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แสดงบทบาทเชิงบวกเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
นายวาง หยาง รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ผลสำเร็จที่ได้มาจากการเจรจารอบนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และจะปูพื้นฐานสำหรับการพบปะระหว่างผู้นำสองประเทศที่จะจัดขึ้นเดือนพฤศจิกายนศกนี้ อีกทั้งได้เพิ่มพลังงานเชิงบวกต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ประเทศใหญ่แบบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
(Yim/Lin)