พ่อจ๋า เราจะไปไหนซีซั่นสอง--พ่อลูกลู่อี้
  2014-10-13 12:58:06  cri

ในพ่อ 5 คนของรายการ "พ่อจ๋าเราจะไปไหน" ซีซั่นแรก พ่อที่หล่อที่สุดต้องเป็น "หลินจื้ออิ่ง" แต่ในซีซั่นที่สอง พ่อที่หล่อที่สุดต้องยกให้ "ลู่อี้" ความหล่อเหลาของลู่อี้ไม่เพียงอยู่ที่หน้าตา แต่ยังได้มาจากความสดใสและใจดีของเขาด้วย แฟนรายการต่างว่ารอยยิ้มของเขาอบอุ่นเหมือนแสงแดด ที่มีให้เห็นตลอดเวลา

ลู่อี้เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคมปี 1976 เป็นนักร้องและนักแสดงชายที่มีชื่อเสียงของจีน จบจากคณะการแสดงสถาบันงิ้วและละครของนครเซี่ยงไฮ้ ลู่อี้เป็นที่รู้จักจากบท "เซียวถง" ในละคร "ไม่หลับตาตลอดไป" เมื่อปี 1998 ละครเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายขวัญใจผู้ชมและนักแสดงนำชายดีเด่นในงานมอบรางวัล "อินทรีทองคำ" ของจีน ครั้งที่ 18 เมื่อปี 2003 ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักแสดงชายดีเด่น 10 คนที่ผู้ชมชอบมากที่สุดด้วยละคร "ชายเก่งหญิงสวย"

ในปีเดียวกัน ลู่อี้ก็เริ่มเบนเข็มมาจับไมค์ร้องเพลงด้วย และได้รับรางวัลนักร้องชายดีเด่นประจำปีของจีนแผ่นดินใหญ่ในงานมหกรรมดนตรีซีซีทีวี-เอ็มทีวี ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลู่อี้เกือบไม่เคยหายไปจากสายตาของผู้ชมจีน เขาพยายามทำงาน แสดงละครได้หลายเรื่องและมีผลงานด้านดนตรีไม่น้อยด้วย เมื่อปี 2006 ลู่อี้แต่งงานกับภรรยา "เป้าเหล่ย" และปี 2008 ก็คลอดลูกสาวชื่อ "ลู่ อวี่เสวียน" หรือชื่อเล่นว่า "เป้ยเอ๋อร์"

ลู่อี้มีความอบอุ่น จริงใจ และใจดี อีกทั้งยังคุยสนุก เมื่อไปอยู่ที่เทียนเคิง เจ้าหน้าที่รายการให้เด็กๆ ไปซื้ออาหารและเสื้อผ้าให้กับพ่อทุกคน "ตัวตัว"ลูกสาวของ "หวงเหล่ย" ไม่เพียงซื้อเสื้อให้พ่อยังนึกถึงแม่เพราะใกล้เทศกาลวันแม่ของจีนแล้ว จึงได้ซื้อเสื้อฝากแม่ด้วย ซึ่งแม่หนูเป้ยเอ๋อร์ก็ไม่เข้าใจเลือกซื้อเสื้อที่ตัวตัวจะซื้อฝากแม่เอาให้พ่อของตน พ่อสองคนเห็นเสื้อที่ลูกสาวซื้อมาฝากก็อดขำไม่ได้ บอกว่าสามารถถ่ายละครได้อีกหนึ่งเรื่อง ชื่อเรื่อง "แรงงานเหมืองแร่(หวงเหล่ย)กับภรรยา(ลู่อี้)" ลู่อี้บอกว่าทีแรก ยังไม่รู้ว่าเสื้อผ้าที่เป้ยเอ๋อร์ซื้อมาเป็นเสื้อผู้หญิง เพียงเห็นมีลายสีมากมาย จนถึงตัวตัวเข้ามา จ้องมองและกล่าวว่า หนูได้ซื้อชุดเหมือนกันนี้ให้กับแม่ ลู่อี้จึงรู้ว่าตนเองกำลังใส่ชุดผู้หญิง เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมอยู่หน้าทีวีดูแล้วหัวเราะไม่หยุด 

ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่รายการมอบหมายหน้าที่ ให้พ่อทุกคนทำอาหารเย็นที่ลูกชอบมากที่สุด พ่อคนอื่นพยายามคิดว่าเด็กของตนเองชอบกินอะไร แต่ลู่อี้กลับหัวเราะชอบใจใหญ่และบอกว่า สบายเลย เพราะลูกผมไม่ชอบทานอาหารเย็น แต่ก็แค่พูดเล่นยังต้องไปทำเหมือนกัน

เมื่อไปถึงหมู่บ้านซินเยี่ยทีมงานให้พ่อลูก 5 คู่เลือกบ้านจากชื่อ ซึ่งไม่มีใครเดาออกได้ว่าจะเป็นบ้านลักษณะแบบไหน ลู่อี้และเป้ยเอ๋อร์เลือกซวงเหม่ยถัง-โถงงามคู่ (双美堂) หยางเวยเลือกสุ่ยหยุนเจียน-เรือนน้ำเมฆ (水云间) พ่อลูกสองคู่นี้เดินมาถึงริมทะเลสาบและเห็นบ้าน(ห้อง)หลังเล็กมาก มีเพียงเบาะรองนอนเท่านั้น ลู่อี้เดินเข้าไปใกล้แล้วว่า หรือนี่จะเป็นซวงเหม่ยถัง หยางเวยได้ฟังก็โล่งใจ แต่พอลู่อี้ดูป้ายหน้าเรือนให้ชัดก็บอกว่า ไม่ใช่ อันนี้เป็นสุ่ยหยุนเจียน และแกล้งล้อว่า ซวงเหม่ยถังต่อให้แย่ขนาดไหน ก็คงไม่เท่าสุ่ยหยุนเจียนแน่

เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า ลู่อี้ไม่เพียงมีหน้าตายังดูอ่อนกว่าวัย จิตใจของเขาก็ยังมีความสนุกสนานแบบเด็กๆ ด้วย พร้อมยังตั้งฉายาให้ว่า "เสินปู่เตา" (神补刀) หรือพ่อจอมแทง "ปู่เตา" หมายถึง เอามีดแทงซ้ำให้เจ็บหนักเข้าไปอีก จึงหมายถึงลู่อี้พูดตลกแบบเอามีดแทงย้ำซ้ำรอยแผลเดิมให้เจ็บลึกเข้าไปอีก ส่วน "เสิน" ก็หมายถึงเขาพูดตลกมากและเหมาะสมมาก

ส่วนแม่หนูเป้ยเอ๋อร์อายุ 5 ขวบ ขายาวเหมือนกับพ่อ จึงสูงกว่าเด็กอายุเท่ากัน และมีนิสัยเหมือนกับพ่อด้วย เป็นเด็กที่สดใสและชอบหัวเราะ ไปไหนต่อไหนก็สามารถได้ยินเสียงหัวเราะ "ฮาๆๆ" ของเธอ เป้ยเอ๋อร์เป็นเด็กที่ใจดีมาก มักปลอบใจเพื่อนที่ร้องไห้หรืออารมณ์ไม่ดี และก็เป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด ครั้งหนึ่งที่เธอและเกรสได้รับมอบหมายหน้าที่ ให้ต้องไปหาคนที่สูงสุดในหมู่บ้าน เพื่อช่วยเก็บผลไม้บนต้นไม้ เด็กสองคนนี้ช่วยกันมาถึงบ้านหลังหนึ่ง ซึ่ง "เหยาหมิง" อดีตนักกีฬาบาสเกตบอลอาชีพและเป็นดาราดังของจีนมาเป็นแขกรับเชิญ กำลังนั่งเล่นหมากรุกจีนกับชาวบ้าน แต่เป้ยเอ๋อร์ไม่รู้ใครสูงสุดและก็ไม่รู้จักเหยาหมิงด้วย เมื่อหาคนสูงสุดไม่เจอ เธอจึงบอกให้ชาวบ้านทุกคนยืนขึ้น ทีแรกเหยาหมิงไม่ได้ยืน เป้ยเอ๋อร์จึงวิ่งไปกล่าวกับเขาสองครั้งว่า ขอให้ยืนขึ้นทุกคน หนูอยากหาคนตัวสูงที่สุดค่ะ สุดท้าย เหยาหมิงจึงยืนขึ้นและออกเดินทางเพื่อไปช่วยเด็กๆ เก็บผลไม้ตามหน้าที่ ระหว่างทาง เป้ยเอ๋อร์ก็คุยกับเหยาหมิงได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่รู้สึกเขินอายเมื่อพบกับคนแปลกหน้าที่สูงกว่า 2 เมตรคนนี้ ต่อมา เหยาหมิงกับเด็กทั้งสองได้เขียนพู่กันจีน เป้ยเอ๋อร์เขียนชื่อจริงของตนเอง เหยาหมิงชี้ตัวอักษรที่เป้ยเอ๋อร์เขียนและถามว่า อันนี้เป็นชื่อของเป้ยเอ๋อร์หรือ แม่หนูเป้ยเอ๋อร์ไม่ได้ตอบตรง แต่ถามกลับว่า คุณอายุมากขนาดนี้ยังอ่านหนังสือไม่ออกอีกหรือ ทำให้ผู้ชมขำและออกปากชมว่าสมแล้วที่ เป้ยเอ๋อร์เป็นลูกสาว "พ่อจอมแทง"

นอกจากนี้ เป้ยเอ๋อร์ยังเป็นเด็กคุยเก่ง เวลาออกไปปฏิบัติหน้าที่กับไฟย์แมน ซึ่งเป็นเด็กที่ขี้อายและคุยไม่เก่ง เป้ยเอ๋อร์ก็พูดเองคนเดียวไม่หยุดว่า "เราเดินทางนี้ได้ ไฟย์แมนระวังนะ ให้ฉันลงไปก่อนได้ไหม ให้ฉันลงไปก่อน แล้วฉันจะรอรับไฟย์แมนนะ ฉันดูแลไฟยแมนได้ ทางนี้เราเพิ่งเดินมา ฉันรู้สึกคุ้นๆ ฉันว่าเราควรเดินลงไปอีกหน่อย ไฟย์แมนระวัง! ไฟย์แมนที่เธอเดินไม่ใช่ถนน! ไฟย์แมนอย่าเดินทางแคบขนาดนี้ เดินทางนี้กับฉันเถอะ ไฟย์แมน มา อย่ากระโดด! รองเท้าไฟย์แมนใหญ่เกิน เมื่อกระโดดแล้วจะหลุดง่าย มา ไฟย์แมน พวกเขาอาจจะหาได้แล้ว! ไฟย์แมน! ไฟย์แมน! ไฟย์แมนไปไหนแล้ว! อ๋อ ไฟย์แมนอยู่ตรงนี้..." ทำให้ผู้ชมตลกมาก และล้อว่าเป้ยเอ๋อร์เหมือนพระถังซัมจั๋งที่สวดมนต์งึมงำ พูดจาไม่รู้หยุดเลย 

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040