เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ดาโต๊ะซรีฮิชามมุดดิน ฮุสเซน(Hishammuddin Hussein) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศมาเลเซียกล่าวหลังจากพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า มาเลเซียกับฝรั่งเศสมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับลัทธิก่อการร้าย เพื่อยับยั้งการลุกลามของ "กลุ่มรัฐอิสลาม" ซึ่งเป็นองค์การหัวรุนแรง
ฝรั่งเศสเริ่มเข้าร่วมการโจมตีทางอากาศต่อองค์การหัวรุนแรงดังกล่าวโดยตรงตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ส่วนมาเลเซียได้ใช้ความพยายามป้องกันองค์การหัวรุนแรงดังกล่าวตลอดจนแนวคิดของกลุ่มนี้ไม่ให้แทรกซึมเข้าไปในประเทศมาเลเซีย ดูจากสภาพปัจจุบันไม่มีความเป็นไปได้ที่สองประเทศจะร่วมกันใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อเจาะจงต่อองค์การหัวรุนแรงนี้ แต่การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองจะเป็นวิธีร่วมมือที่มีประสทิธิผลที่สุด
ช่วงที่ผ่านมา แนวคิดขององค์การหัวรุนแรงดังกล่าวนี้ได้เผยแพร่เข้าไปในมาเลเซียโดยผ่านโซเซียลมีเดีย(Social Media) และมีชาวมาเลเซียเดินทางไปซีเรียเข้าร่วม "สงครามศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งทำให้รัฐบาลมาเลเซียที่ใช้ท่าทีสุขุมรู้ถึงแรงกดดัน ฉะนั้น มาเลเซียหวังว่าประเทศตะวันตกอย่างฝรั่งเศส ซึ่งได้เข้าร่วมต่อสู้กับ"กลุ่มรัฐอิสลาม"โดยตรง สามารถเสนอข่าวกรองแนวหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ "กลุ่มรัฐอิสลาม"
มาเลเซียกับฝรั่งเศสมีความร่วมมือด้วยดีด้านการทหาร ขณะดาโต๊ะซรีนาจิบ ตุน ราชัก (Najib Tun Razak) นายกรัฐมนตรีว่าการมาเลเซียดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมก็เคยผลักดันให้นำเข้าเรือดำน้ำ 3 ลำจากฝรั่งเศส ถ้าการคุกคามจาก "กลุ่มรัฐอิสลาม"รุนแรงยิ่งขึ้น มาเลเซียอาจจะนำเข้าอาวุธทันสมัยจากฝรั่งเศส แน่นอนในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นดังกล่าว ความร่วมมือด้านข่าวกรองยังคงเป็นวิธีสำคัญในปัจจุบัน
(In/zheng)