สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ประกาศในที่ประชุมประจำปีของการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนว่า จะปรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2015 อยู่ที่ 7% ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มห่วงใยอนาคตการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนแล้ว

นี่ไม่ใช่ความห่วงใยโดยไร้เหตุผล เพราะว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนได้ลดลงต่อเนื่องกัน 4 ปีและ เมื่อปี 2014 เป็นเพียง 7.4% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในช่วง 24 ปีมานี้ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนยังปรับลดดอกเบี้ยสองครั้ง ปฏิบัติการดังกล่าวแสดงว่า เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันอย่างหนัก

แต่ที่เขตบางแห่งตามริมชายฝั่งทะเลในทางภาคตะวันออกของจีน อุตสาหกรรมตกยุคบางส่วนกลับมีรูปการณ์ที่มีชีวิตชีวาขึ้นเนื่องจากได้ดำเนินการนวัฒกรรมใหม่ บางส่วนได้ใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตหรือเทคโนโลยีใหม่มาปรับปรุงวิสาหกิจที่มีมาช้านานของตน พวกเขาเห็นว่า ชีวิตที่ดีกำลังจะมาถึง ในดุลยภาพใหม่นี้ เศรษฐกิจจีนยังสามารถเติบโตได้

นายเฉียน ยั่วเป่า ผู้แทนสมาชิกของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ประธานคณะกรรมการกลุ่มเมิ่งหลานมณฑลเจียงซูกล่าวว่า การใช้แรงงานราคาต่ำกับการสิ้นเปลืองพลังงานสูงจะยืดเยื้อเป็นเวลานานไม่ได้ บริษัทได้คาดเดาถึงสภาพการณ์ปัจจุบันมานานแล้ว และได้ปรับฝีก้าวการพัฒนาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน

จุดสำคัญคือเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้สร้างศูนย์วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระดับประเทศขึ้น สำหรับปัญหาต้นทุนค่าแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น กลุ่มบริษัทเมิ่งหลานได้นำเข้าอุปกรณ์การผลิตอัตโนมัติสามประเภททั้งจากเยอรมนี สเปนและสวีเดน แล้วประกอบขึ้นเป็นสายการผลิตอัตโนมัติตามความต้องการของตน ซึ่งได้ประหยัดต้นทุนค่าแรงงานกว่า 80% และเสริมประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นประมาณ 5 เท่า เมื่อปีที่แล้ว อัตราการเติบโตด้านการส่งออกได้เพิ่มขึ้นกว่า 20%

จีนยังมีวิสาหกิจทำนองเดียวกับกลุ่มวิสาหกิจเมิ่งหลานอีกมากมาย ในการประชุมกลุ่มย่อยของผู้แทนเจียงซูนั้น ผู้แทนนักธุรกิจส่วนใหญ่แสดงความมั่นใจว่า วิสหากิจของพวกเขากำลังอยู่สภาพปรับเปลี่ยนและอัพเกรดอยู่ และเห็นว่า การยกระดับทางเทคโนโลยีเป็นทางออกที่ดีต่อวิสาหกิจในสภาพดุลยภาพใหม่นี้ เมื่อทำสำเร็จ จะนำมาซึ่งการพัฒนาใหม่ที่รวดเร็ว

Yim/LJ