หนังสือพิมพ์เหรินหมินรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์จัดการซ้อมรบร่วมทางทะเลเป็นครั้งแรกที่น่านน้ำทะเลหนานไห่ (ทะเลจีนใต้) ซึ่งเป็นเขตที่มีข้อขัดแย้งกัน ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า นี่เป็นการสร้างปัญหาให้กับสถานการณ์ทะเลหนานไห่

หลายปีมานี้ สถานการณ์ทะเลหนานไห่ตึงเครียดมากขึ้น ความใกล้ชิดระหว่างฟิลิปปินส์กับญี่ปุ่นในปัญหาทะเลหนานไห่ จึงเป็นที่จับตามองทั่วโลก แท้ที่จริง นี่ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์จัดการซ้อมรบร่วมกันในปีนี้ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์จัดการซ้อมรบร่วมในประเด็นปราบปรามโจรสลัด นับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ซ้อมรบร่วมกันครั้งแรกตั้งแต่สองประเทศลงนามข้อตกลงความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2012

สำหรับชาวฟิลิปปินส์แล้ว การซ้อมรบไม่ได้เป็นเรื่องพิเศษแต่อย่างใด เดือนเมษายนที่ผ่านมา สหรัฐฯ กับฟิลิปปินส์จัดการซ้อมรบร่วมประจำปี 2015 นับเป็นการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่ที่สุดในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้จัดทหารเข้าร่วมกว่า 11,000 คน และจัดในหลายพื้นที่ที่ฟิลิปปินส์

ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา การซ้อมรบของฟิลิปปินส์ได้ดึงดูดสายตาจากประชาคมโลกอย่างมาก การซ้อมรบร่วมกับญี่ปุ่นในครั้งนี้ย่อมทำให้ประเทศรอบข้างทะเลหนานไห่ตึงเครียดขึ้น

อันที่จริง ญี่ปุ่นเป็นประเทศนอกภูมิภาคหนานไห่ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าแทรกแซงปัญหาแหล่งข่าวแจ้งว่า ปีนี้ ฟิลิปปินส์มีแผนจะจัดการซ้อมรบ 3 ครั้งกับญี่ปุ่นในปีนี้ เหตุใดที่ญี่ปุ่นมีความกระตือรือร้น และฟิลิปปินส์ก็ยินดีด้วย

นายหลี่ เย่าตง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยญี่ปุ่นของสภาสังคมศาสตร์จีนเห็นว่า ญี่ปุ่นเน้นว่าตนเป็นประเทศนำเข้าพลังงาน ทะเลหนานไห่เป็นช่องทางขนส่งพลังงานที่เชื่อมญี่ปุ่นกับตะวันออกกลาง และยุโรป จึงเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของญี่ปุ่นเอง

ที่สำคัญกว่านี้ ญี่ปุ่นอยากแสดงบทบาทโดดเด่นมากขึ้นในความมั่นคงทะเลหนานไห่ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเยือนสหรัฐฯ ญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ได้ตั้งเข็มมุ่งความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศสหรัฐฯ – ญี่ปุ่น แหล่งข่าวแจ้งว่า ญี่ปุ่นอาจร่วมการลาดตระเวนที่ทะเลหนานไห่กับสหรัฐฯ ด้วย

(yim/cici)