เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตันซรี ดาโต๊ะ มูห์ยิดดิน ยัสซิน(Muhyiddin Yassin) รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ที่ครอบคลุมจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ถ้าสามารถดำเนินการเจรจากับประเทศสมาชิกอาเซียนได้ภายในปลายปีนี้ จะพัฒนาภูมิภาคนี้ให้กลายเป็นกลุ่มการค้ากลุ่มเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากกว่า 3,000 ล้านคน
ตัสซรี ดาโต๊ะ มูห์ยิดดิน ยัสซินกล่าวว่า ขนาดตลาดของกลุ่มดังกล่าวที่มีประชากรกว่าร้อยละ 45 ของโลก และในอนาคตยอดการตลาดของภูมิภาคจะเป็น 17 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายสวี่ ลี่ผิง นักวิจัยปัญหาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสภาวิทยาศาสตร์สังคมจีนกล่าวว่า อาเซียนในฐานะเป็นศูนย์กลางของ RCEP จะผลักดันให้การเจรจาเกี่ยวกับ RCEP ดำเนินไปโดยเร็วและสมบูรณ์ นายสวี่ ลี่ผิงกล่าวว่า ตามวาระการประชุมที่เกี่ยวข้อง ปีนี้อาเซียนจะสร้างประชาคมเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีบทบาทนำร่องการเจรจาเกี่ยวกับ RCEP ข้อตกลง RCEP แตกต่างกับข้อตกลงฉบับอื่นๆ ซึ่งในเขต RCEP ได้รวมทั้งประเทศกำลังพัฒนากับประเทศพัฒนา เป็นเขตนำร่องความร่วมมือใต้-ใต้กับความร่วมมือเหนือ-ใต้ ปัจจุบัน เศรษฐกิจโลกกำลังโยกย้ายทิศตะวันออก อาเซียนในฐานะเป็นภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลาง ถ้าข้อตกลง RCEP สามารถบรรลุได้ในปลายปีนี้ จะมีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกกระตุ้นอย่างใหญ่หลวง
ตันซรี ดาโต๊ะ มูห์ยิดดิน ยัสซินได้ระบุในการกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของอาเซียนประจำปี 2015 ว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของอาเซียนจะได้ประโยชน์จาก ข้อตกลง RCEP ขณะเดียวกันยังจะได้ประโยชน์จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะสร้างขึ้นในปลายปีนี้ด้วย
(In/zheng)