เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีการสัมมนาว่าด้วยเส้นทางสายไหมระหว่างจีนกับอาเซียนที่เมืองเซินเจิ้น เซิงเจิ้นเป็นหนึ่งในเมืองแรก ๆ ของจีนที่ปฏิรูปและเปิดประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ ผู้สื่อข่าวจากจีนและ 10 ประเทศอาเซียนมาร่วมการสัมมนาซึ่งชุย อี๋เหมิง ผู้สื่อข่าวภาคภาษาไทยซีอาร์ไอก็ไปร่วมด้วย และได้สัมภาษณ์ดร.โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีนซึ่งได้วิเคราะห์บทบาทและข้อได้เปรียบของไทยจากหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางพร้อมทั้งประเมินความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในโอกาสครบรอบ 40 ปีรวมถึงเล่าความประทับใจที่มีต่อเมืองเซินเจิ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวภาคภาษาไทยซีอาร์ไอ:
การเยือนจีนครั้งนี้ ท่านได้มาชมการพัฒนาสมัยใหม่ของเมืองเซินเจิ้นและนิทรรศการมณฑลต่าง ๆ ของจีนด้วย ท่านมีความประทับใจต่อเมืองเซินเจิ้นตลอดจนประเทศจีนอย่างไร
ดร.โภคิน พลกุล:
คือประเทศจีนนะครับ ในช่วง 30 ปีมานี้ เปลี่ยนแปลงมาก เซินเจิ้นก็มากเหลือเกิน แต่ก่อนถ้าดูฮ่องกงกับเซินเจิ้น เซินเจิ้นคือบ้านนอกแบบชนบทมาก ฮ่องกงนี่คือแบบไซโซเลย วันนี้เห็นว่า เซินเจิ้นกำลังไล่ขึ้นมา แล้วเพื่อนชาวจีนที่พูดให้ฟังเมื่อเช้าก็พูดดีมากเลยว่า ฮ่องกงนั้นเก่งเรื่องในพูดง่าย ๆ soft power ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการเงิน ศูนย์กลางการค้าขาย เซินเจิ้นมีพื้นที่ มีประชากรเยอะ มีทรัพยากร มีสิ่งที่ให้พัฒนาดีมากมาย ถ้าเอาสองอย่างนี้บวกกันก็จะเป็นพลังมหาศาล ยิ่งถ้าไปถึงจูไห่ด้วย เส้นทางจะเชื่อมต่อกันหมด ตรงนี้ก็จะเป็นเซ็นเตอร์ใหญ่
(Cui)