ตามปกติ พิพิธภัณฑ์จะจัดการแสดงและการฝึกอบรมต่างๆเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านดาราศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดฤดร้อนและฤดูหนาว ซึ่งการแสดงดังกล่าวได้รับความสนใจจากเด็กนักเรียนจำนวนมาก และทำให้พิพิธภัณฑ์กลายเป็นโรงเรียนที่ไม่มีกำแพงของเด็กนักเรียน

กล่าวได้ว่า จีนเป็นประเทศที่มีประวัติวิวัฒนาการด้านดาราศาสตร์มานานที่สุดและรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ในสมัยโบราณของจีน ดาราศาสตร์เป็นหนึ่งในสี่ของวิทยาศาสตร์ธรรมชาติที่พัฒนาก้าวหน้ามากที่สุด ซึ่งรวมทั้ง การเกษตร แพทย์และคณิตศาสตร์ จีนโบราณได้เริ่มใช้ปฏิทินจันทรคติเพื่อช่วยในการเพาะปลูกของเกษตรกร นอกจากนั้นยังประดิษฐ์คิดค้นและผลิตอุปกรณ์ชั่งดวงวัดนานาชนิดรวมถึงแนวคิดด้านจักรวาล ล้วนได้ส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาแวดวงดาราศาสตร์ของโลก เช่น เมื่อศตวรรษที่ 24 ก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งตรงกับสมัยเหยา(尧)ได้ตั้งตำแหน่งราชการที่รับผิดชอบเรื่องการดูดาวแล้ว กล่าวได้ว่า จีนเป็นประเทศที่บันทึกปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สมบรณ์และเก่าที่สุดของโลก เมื่อหลายพันปีก่อน จีนได้จดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของดาราศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ ดาวหาง หรือ สุริยคราส จันทรคราส หรือฝนดาวตกเป็นต้น นักโบราณคดียังค้นพบตัวอักษรบรรทึกลงในกระดูกสัตว์หรือกระดองเต่าอย่างละเอียดของเมื่อ 140 กว่าปีก่อนคริสต์ศักราชที่เมืองอันหยางมณฑลเหอหนาน นอกจากนั้น จีนสมัยโบราณยังมีสถานที่เพื่อดูดาวเป็นเฉพาะหลายแห่ง เช่น หลิงไถ(灵台) จันซิงไถ(瞻星台)ซือเทียนไถ(司天台)กวันเซี่ยงไถ(观象台)เป็นต้น และกระทั่งถึงปัจจุบัน ที่เมืองเติงเฟิงมณฑลเหอหนานและกรุงปักกิ่งยังมีหอดูดาวสมัยโบราณที่อนุรักษ์ไว้อย่างดี

เช่น ที่หอดูดาวโบราณในกรุงปักกิ่งซึ่งเป็นสถานที่ดูดาวเก่าที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี 1442 หอดูดาวแห่งนี้ยังเป็นหอดูดาวของพระราชสำนักในสมัยราชวงค์หมิงและชิง ในหอดูดาว ยังตั้งอุปกรณ์ที่ศึกษาดาราศาสตร์นานาชนิด เช่น หุนหยี(浑仪) เจี่ยนหยี(简仪)เป็นต้น และมีขนาดใหญ่โตมาก พอมาถึงสมัยราชวงค์ชิง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่จากยุโรปยังทูลเกล้าถวายอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์แด่พระจักรพรรดิคังซี นอกจากนี้ยังทรงให้สร้างขึ้นอีกหลายชิ้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีให้ชม

พิพิธภัณฑ์ท้องฟ้าจำลองกรุงปักกิ่ง หรือหอดูดาวกรุงปักกิ่งตั้งอยู่เลขที่ 138 ถนนซีเจ๋อเหมินไว่西直门外大街 นั่งรถเมล์สาย 102 105 111 ลงที่ตงอู้หยวนก็ถึงพอดี