ด้านนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนพูดถึงสภาวะเศรษฐกิจจีนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า
จีนกำลังเร่งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดอัตราการเติบโตจากระดับเร็วมาเป็นระดับค่อนข้างเร็ว และหันมาเน้นพัฒนายกระดับคุณภาพเศรษฐกิจให้สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยให้เศรษฐกิจจีนสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เมื่อจีนปรับจังหวะการพัฒนาเศรษฐกิจให้สมเหตุสมผลมากขึ้น การบริโภคทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมย่อมลดลง และจีนจะใช้โอกาสนี้ผลักดันการปฏิรูป เพื่อให้เศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่งและความทันสมัยมากขึ้น
นายกฯหลี่ เค่อเฉียง กล่าวว่า รัฐบาลจีนสนับสนุนประชาชนประกอบธุรกิจส่วนตัว เพราะการประกอบธุรกิจส่วนตัวของมวลชนจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต และช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของสังคม จีนยังจะแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจของมวลชน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยสร้างนวัตกรรมและความมั่งคั่ง
นายกฯหลี่ เค่อฉียงเล่าว่า เคยไปเยี่ยมหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของจีนเมื่อปีที่แล้ว หมู่บ้านแห่งนี้มีประชากร 700 ครัวเรือน แต่กลับมีร้านค้าออนไลน์กว่า 2,000 แห่ง ในแต่ละวันหมู่บ้านแห่งนี้ขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตกว่า 30 ล้านชิ้นไปยังลูกค้าที่อยู่ทั่วประเทศ นี่คือตัวอย่างของการประกอบธุรกิจส่วนตัวของมวลชนที่ยอดเยี่ยมของคนจีน การประกอบธุรกิจส่วนตัวของมวลชนช่วยสร้างการบริโภคในประเทศ เพิ่มความมั่งคั่ง และที่สำคัญคือสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจ ช่วยให้ปัจเจกชนสามารถแสดงบทบาทของตนได้เต็มที่
จีนจะเร่งปฏิรูประบบราชการต่อไป ยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างนวัตกรรมและการประกอบธุรกิจส่วนตัว กระจายอำนาจไปยังรัฐบาลท้องถิ่นให้มากขึ้น พึ่งพาอาศัยกลไกตลาดให้มากขึ้น ทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจหน้าใหม่ๆ สนับสนุนภาคเอกชนให้มีความแข็งแกร่งและพลังแข่งขันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดทุจริตคอร์รัปชันในทางอ้อมด้วย
ในวันข้างหน้า จีนจะเร่งปฏิรูปภาคอุปทานและการบริการสาธารณะ แม้ว่าจีนได้ลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไปมากแล้ว แต่สัดส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่อประชากรยังคงต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนา นั่นแปลว่า จีนยังมีโอกาสเพิ่มการลงทุนอีกมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้น
จีนจะเร่งดำเนินโครงการลงทุนสำคัญหลายโครงการ เช่น การวาง ระบบรางในภาคกลางและภาคตะวันตกของประเทศ การสร้างแหล่งน้ำ การปรับปรุงเขตเมืองเก่า รัฐบาลจะลงทุนกับโครงการเหล่านี้ให้มากขึ้น แต่จะไม่เป็นฝ่ายดำเนินการเพียงลำพัง โดยสนใจจะร่วมมือกับภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศให้มากขึ้น เช่น โรงงานบำบัดน้ำเสียแห่งหนึ่งในภาคตะวันตกของจีนที่ต้องใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านหยวน โครงการได้รับความสนใจจากบริษัทจัดการน้ำของเยอรมนี จนเข้ามาลงทุนเป็นสัดส่วนถึง 70% ของโครงการ
จีนยังจะปฏิรูปภาษีและการเงิน รวมถึงลดภาษีและค่าธรรมเนียมของภาคธุรกิจ จีนจะเน้นสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก สถาบันการเงินขนาดเล็ก ธนาคารเอกชน เพื่อตอบโจทย์ธนาคารขนาดใหญ่ของรัฐไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการระดมทุนของธุรกิจขนาดเล็ก
จีนจะลดจำนวนสินค้าที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดราคา สร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีแก่การประกอบธุรกิจ ยึดหลักกลไกตลาด และหลักกฎหมาย
การปฏิรูปของจีนจะเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้แก่โลก จีนจะเปิดรับเงินทุนจากต่างประเทศมากขึ้น บริษัทต่างชาติจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับบริษัทภายในประเทศ นอกจากนี้ จีนจะนำประสบการณ์จากเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้มาใช้กับพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ
จะกระชับความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านรถไฟความเร็วสูง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อุตสาหกรรมการบิน โทรคมนาคม การผลิต จะเร่งผลักดันยุทธศาสตร์ "แถบเศรษฐกิจตามเส้นทางสายไหม" และ "เส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษ 21" จีนยินดีร่วมมือกับประเทต่างๆ ทั่วโลก เพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้คืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง
นายกฯหลี่ เค่อเฉียงเชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาเศรษฐกิจจีนที่กล่าวมาข้างต้นนี้ย่อมจะทำให้เศรษฐกิจจีนมีอนาคตที่กว้างไกล