ทราบหรือไม่ว่าประเทศไทยกำลังเป็นแหล่งผลิตและส่งออกพลังงานทางเลือกที่สำคัญโดยเฉพาะโซล่าร์เซลล์หรือพลังงานจากแสงอาทิตย์ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเมื่อปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558) ประเทศไทยมีมูลค่าการลงทุนโครงการเกี่ยวกับการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ขนาดโหญ่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่การลงทุนส่วนใหญ่นั้นยังมาจากนักลงทุนต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะจากจีนซึ่งถือเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกเซลล์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานโลก จีนได้ขยายฐานการผลิตและส่งออกลงมาที่อาเซียน เช่น มาเลเซีย และไทย การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ การแสวงหาคู่ค้าและโอกาสในตลาดต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งยุทธวิธีของผู้ประกอบการไทยที่จะทำให้ธุรกิจของตนดำเนินต่อไปได้ และรวมไปถึงผู้บริโภคทั่วไปอย่างเราๆที่ควรทราบถึงสถานการณ์ด้านพลังงานและติดตามเทคโนโลยีด้านพลังงานเพื่อความยั่งยืน เพื่อความเข้าใจและปรับตัวให้ทันกับโลกที่กำลังเผชิญปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการขาดแคลนพลังงานค่ะ
กระทรวงพลังงาน, กระทรวงคมนาคมและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดการประชุมวิชาการและนิทรรศการ "โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559" หรือ "Sustainable Energy & Technology Asia 2016" (SETA 2016) เพื่อผลักดันและยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านพลังงานและเทคโนโลยีในระดับภูมิภาคเอเชีย ระหว่าง วันที่ 23-25 มีนาคม 2559 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร โดยในงานจัดให้มีการให้ความรู้ทางด้านพลังงาน โดยผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรจากหลายหน่วยงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน และนี่เป็นครั้งแรกของไทยที่ได้จัดงานประชุมวิชาการด้านพลังงานในระดับนานาชาติเช่นนี้
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าจากการใช้พลังงานของประเทศที่มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง กระทรวงพลังงานจึงได้จัดทำแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว พ.ศ. 2558-2579 หรือชื่อย่อว่า TIEB เพื่อสร้างสมดุลของพลังงาน ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ราคาค่าไฟฟ้าเหมาะสม ตลอดจนดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกัน และสำหรับงาน SETA 2016 ที่กำลังจะจัดขึ้นนั้นจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดด้านแผนพลังงานกับตัวแทนของหน่วยงานจากต่างประเทศ และพูดคุยถึงแผน TIEB ของไทย
ตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม - นายสมศักดิ์ ห่มม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การขนส่งถือเป็นภาคที่มีความสำคัญยิ่งต่อการใช้พลังงาน ปัจจุบัน "น้ำมัน" ยังคงเป็นเชื้อเพลิงหลัก แต่ในอนาคตที่มาแรงคือยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ต้องมีการวางแผนผลิตไฟฟ้าที่ยืดหยุ่นพอที่จะรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้
ด้านนายอลงกรณ์ เหล่างาม ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงงานวิจัยและนวัตกรรมที่จะนำมาแสดงในงาน SETA 2016 ว่า จะเน้นเรื่องพลังงานทดแทน เช่น นวัตกรรมผลิตน้ำมันชีวภาพจากการเพาะเลี้ยงสาหร่าย รถไฟฟ้าดัดแปลงเคลื่อนที่ด้วยลิเทียมไอออน การผลิตไบโอดีเซลจากพืชที่ไม่ใช่อาหาร เป็นต้น
สำหรับงานนี้ ผู้สนใจสามารถเดินทางไปชมได้ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ในระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม 2559 โดยส่วนนิทรรศการสามารถเข้าชมได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยทางผู้จัดคาดว่าจะมีผู้บริหารระดับสูงและผู้มีบทบาทในการกำหนดนโยบายด้านพลังงานมากกว่า300 คนจาก 15 ประเทศเข้าร่วมการประชุม และมองตัวเลขผู้เข้าชมที่ 2,500 คนตลอดระยะเวลา 3 วัน ซึ่งกิจกรรมจะแบ่งเป็นสองส่วนหลัก คือส่วนงานวิชาการและส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงการประชุมคู่ขนาน การพบปะระหว่างคู่ค้าและการจับคู่ทางธุรกิจ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยผู้แทนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเชีย (ADB) จะมานำเสนอแนวทางการเข้าถึงแหล่งทุนภายในงาน SETA 2016 นี้ด้วยค่ะ
เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿
