视频/泰国/图书/磨练
|
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว หลายคนคงมีรายชื่อหนังสือในใจที่คิดว่าจะไปกวาดซื้อให้เรียบในราคาที่ค่อนข้างจะพิเศษกว่าร้านหนังสือทั่วไป หนังสือที่ทางทีมงาน CRI แนะนำในครั้งนี้อาจจะหาไม่ได้ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งนี้ แต่หากว่าสนใจอยากได้มาครอบครองแล้วละก็ ขอแนะนำให้ติดต่อกับทางสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยประเทศจีนหรือที่นิตยสารจีนไทยโดยตรงค่ะ
หนังสือที่เราจะแนะนำในครั้งนี้มีชื่อเป็นภาษาจีนตามต้นฉบับว่า "磨练" และมีชื่อไทยว่า "หล่อหลอม"เป็นผลงานของคุณสุกิจ อัมพรสุขสกุล (อู ถิงกวง) นักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนผู้มีชื่อเสียงในธุรกิจก่อสร้าง ประธานกรรมการบริหารและประธานบริษัทแสงฟ้าก่อสร้างจำกัด เนื้อหาด้านในเป็นอัตชีวประวัติที่คุณสุกิจบันทึกด้วยตนเอง ซึ่งมีทั้งเรื่องราวอันยากลำบากในวัยเยาว์ เริ่มต้นก่อตั้งกิจการ ประสบการณ์ในชีวิตตลอดจนความตื่นรู้ใน 70 ปีที่ผ่านมา
คุณกำพล เสรฐภักดี ประธานสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยประเทศจีนได้กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า บางท่านอาจจะผ่านตามาบ้างแล้วกับฉบับที่เป็นภาษาจีน บัดนี้ "หล่อหลอม" ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว หวังว่าหนังสือเล่มนี้คงถูกอ่านในวงที่กว้างขึ้น ท่านที่ไม่เคยอ่านก็จะมีโอกาสได้อ่าน เรื่องราวด้านในสมควรให้วัยรุ่นยุคปัจจุบันเอาเยี่ยงอย่าง และไม่ควรมองปัญหาแต่เพียงด้านเดียว เราควรมองมันจากหลายมิติ มองอย่างยืดหยุ่น เพื่อพลิกหาแง่มุมที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงให้ได้ เฉกเช่นคุณสุกิจนั่นเอง
ในงานเปิดตัวหนังสือ ที่ห้องบรรทัดทอง โรงแรมเดอะ ทวินทาวเวอร์ ผู้เขียนหนังสือหล่อหลอมตัวจริงเสียงจริงได้มาพบปะกับมิตรรักนักอ่านและผู้สนใจ คุณสุกิจในปัจจุบันแม้ว่าวัยจะล่วงเลยมามากแล้วแต่ท่านยังคงมีแววตาที่เด็ดเดี่ยวเข้มแข็งด้วยการผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย แม้ขณะนี้ท่านจะประสบความสำเร็จ กระทั่งได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลผู้ไม่ศิโรราบต่ออุปสรรค เป็นแบบอย่างของชาวนักธุรกิจชาวจีนผู้รักแผ่นดินเกิด และขึ้นรับรางวัลอันทรงเกียรติ "ผู้สร้างคุณูปการโดดเด่น ผู้ทรงภูมิปัญญาแห่งชนชาติจีน 10 บุคคลประจำปี ค.ศ. 2007" ที่จัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่งก็ตาม คุณสุกิจยังคงกล่าวกับผู้อ่านอย่างถ่อมตนว่าตนเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น ประสบการณ์หรือสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น นั่นเนื่องมาจากมันเป็นที่ทางเดินบังคับให้เดินไปก็เท่านั้นเอง
เนื่องจาก"หล่อหลอม"ใช้ทีมแปลผู้มีประสบการณ์และทรงคุณวุฒิมากถึง 9 ท่าน และเนื้อหายังมีคุณค่าน่าสนใจ ช่วงหลังของการเปิดตัวหนังสือ ผู้จัดได้เชิญ 3 วิทยากรที่ล้วนแต่มีประสบการณ์ทำงานกับเมืองจีน รวมถึงตัวแทนนักแปลขึ้นมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อุปสรรคในการทำงาน และสิ่งที่ได้รับจากหนังสือเล่มนี้
อาจารย์สุธาทิพย์ โมราลาย อาจารย์ประจำหลักสูตรไทยศึกษาบูรณาการ สำนักวิชาศิลปศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ว่าถึงแม้จะจัดอยู่ในเชิงสารคดีแนวอัตชีวประวัติ แต่มีความบันเทิงแฝงอยู่ ที่ทำให้เราอ่านสนุกเห็นภาพ คล้ายกำลังนั่งอ่านนิยายอยู่ มีความสวยงามของบทกวีแทรกเป็นระยะ ซึ่งอาจารย์สุธาทิตย์ได้กล่าวชมว่าคุณสุกิจมีสายเลือดของนักประพันธ์ซึ่งก็คือคุณแม่ของเขา ดังจะเห็นจากในหนังสือที่คุณสุกิจกล่าวถึงบทกวีอันงดงามที่แต่งโดยคุณแม่ และมีผลึกความคิด ข้อคิดที่น่าสนใจให้ติดตาม คิดว่าช่วงที่ยากลำบากที่สุดของชีวิตผู้เขียนคือตอนที่ต้องเดินขอทานข้ามชาติ ประสบการณ์ครั้งนั้นได้ช่วยหล่อหลอมให้ผู้เขียน รู้จักตนเอง รู้จักผู้อื่น และมีเมตตาต่อผู้อื่น
ด้านคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่เป็นหนึ่งในทีมนักแปลชุดนี้ - คุณกิตติ์ ลิ้มธรรมธาดาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า คนเราถึงแม้ว่าจะเป็นคนเก่งแต่เก่งแล้วไม่มีคุณธรรมก็สร้างความเสียหายได้มากกว่าคนโง่ที่ไร้คุณธรรม สรุปได้ว่าความร่ำรวยช่วยอะไรไม่ได้แต่คุณธรรมของคนนั้นมีคุณค่ามากมาย หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณกิตต์ได้ข้อคิดหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเคารพสิทธิมนุษยชน เคารพความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น, การมีชีวิตอยู่ด้วยพลังอันสร้างสรรค์และอีกมิติของคำว่า "อุปสรรค" ที่ทำให้คนเห็นคุณค่าของมันว่าจะสามารถช่วยผู้อื่นได้อย่างไร
อาจารย์นลินรัตน์ ธรรมพุฒิพงศ์ หัวหน้าคณะแปลกล่าวถึงความตั้งใจ ความละเอียด ความเอาใจใส่ของผู้ร่วมงานแต่ละท่าน รวมถึงยกตัวอย่างความยากลำบากในการรวบรวมผลงานและอุปสรรคที่เกิดขึ้น ผลงานด้านการเขียนการแปลภาษาไทย-จีนไม่ว่าจะในด้านวรรณกรรม บทความ หรืออื่นๆ มีการผลิตผลงานออกมาเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามยังคงมีจุดที่ต้องพัฒนา ทำความเข้าใจและทำการตกลงกัน ประสบการณ์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับนักแปลที่จะตัดสินใจใช้ภาษาไทยในรูปแบบหรือตัวสะกดอย่างไร การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแลกเปลี่ยนและย้อนกลับมามองวงการแปลภาษาจีน-ไทยในบ้านเราเพื่อยกระดับการแปลและพัฒนาคุณภาพของนักแปลให้ขยับขึ้นไปอีกขั้น เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นการเปิดตัวหนังสือดีที่ควรค่าแก่การอ่านแล้วยังเป็นเวทีให้ผู้สนใจการแปลภาษาไทยจีนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำความรู้จักกันให้มากขึ้นด้วย
เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿