อาชีพที่ทำแล้วมีความสุขอันดับที่ 2 คือ ครู ซึ่งเป็นอาชีพที่ติด 3 อันดับแรกต่อเนื่องกัน 4 ปีแล้ว ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ในความคิดของผู้คนส่วนใหญ่ ครูเป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุขจริงๆ เพราะว่า งานของครูทำให้เกิดความรู้สึกสุขใจหลายอย่าง เช่น การอบรมสั่งสอนและชี้ทางให้เด็กๆเพื่อบรรลุความฝันของพวกเขานั้น ทำให้ครูเกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จตามไปด้วย แถมยังมีวันหยุดยาวเป็นเดือนในช่วงปิดเทอมถึงปีละสองครั้ง ส่วนครูมีความสุขจริงหรือไม่ คงต้องให้คนเป็นครูตอบเอง

ถัดมาที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 และข้าราชการทั่วไปในอันดับที่ 5 ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การเป็นข้าราชการยังเป็นอาชีพที่ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ เพราะมีรายได้มั่นคง มีฐานะทางสังคมค่อนข้างสูง และอาจมีสวัสดิการที่ดี

สำหรับอาชีพศิลปิน มัคคุเทศก์ และผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวซึ่งต่างก็ถูกจัดอยู่ใน 10 อันดับแรกนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ผู้คนส่วนใหญ่มีความสนใจทำอาชีพอิสระที่มีความท้าทาย และอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความหลากหลาย

ส่วนสาเหตุที่โค้ชฟิตเนสขึ้นมาติดโผกับเขาด้วยนั้น อาจเป็นเพราะว่า นับวันมีผู้คนจำนวนมากหวังจะมีสุขภาพแข็งแรงและหุ่นดี ทั้งนี้ สภาพแวดล้อมการทำงานที่ได้ออกกำลังไปด้วย ก็คงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญไม่แพ้กัน

และในความคิดของผู้คนส่วนใหญ่ นักธุรกิจมักจะร่ำรวย การที่อาชีพนี้ติด 10 อันดับนั้น แสดงให้เห็นว่า ความมั่งคั่งยังคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของคนทั่วไป

เมื่อเทียบกับอันดับอาชีพที่มีความสุขในอดีต การเปลี่ยนแปลงมากที่สุดของอันดับล่าสุดก็คือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนเมื่อปี 2014 ผู้ประกอบอาชีพอิสระเป็นอันดับที่ 4 รองถัดมาจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท และครู เมื่อปี 2013 และ2012 ผู้ประกอบอาชีพอิสระเป็นอันดับที่ 6 เช่นกัน

ต่อเรื่องที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระได้อันดับหนึ่ง โดยสูงกว่าอาชีพที่มั่นคงต่างๆเป็นครั้งแรก เช่น ข้าราชการ และครู เป็นต้น นักวิเคราะห์เห็นว่า ความสุขใจในการงานเปลี่ยนไปเพราะสภาพแวดล้อมของสังคมเปลี่ยนไปแล้ว ปัจจุบัน อาชีพที่มั่นคงในอดีตคงไม่มั่นคงเหมือนเดิมแล้ว

ปีหลังๆนี้ หน่วยงานของรัฐก็เริ่มปฏิรูป โดยกำหนดเงื่อนไขการว่าจ้างที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ผู้จะเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีการศึกษาสูงกว่าอดีตมาก ถึงจะเข้าได้แล้วก็ต้องเผชิญกับความกดดันในการทำงานอย่างสูง ขณะที่รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ดัชนีความสุขในการงานลดต่ำลง อีกด้านหนึ่ง ผู้ประกอบอาชีพอิสระส่วนใหญ่ไม่ต้องยุ่งกับความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนที่สลับซับซ้อน และมีรายได้ไม่น้อย พร้อมทั้งใช้เวลาอย่างอิสระ จึงรู้สึกมีความสุขมากกว่าแน่