เมื่อวันที่ 28 กันยายนนี้ นายโรดริโก ดูเตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ประกาศว่า การซ้อมรบร่วมฟิลิปปินส์-สหรัฐฯที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้าเป็นการซ้อมรบร่วมกันครั้งสุดท้ายของสองประเทศ สาเหตุหนึ่งคือ จีนไม่อยากจะเห็นการซ้อมรบฯ เขายังกล่าวว่า ฟิลิปปินส์จะไม่เข้าร่วมปฏิบัติการลาดตระเวนในทะเลหนานไห่ใดๆทั้งสิ้น ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า ท่าทีของนายโรดริโก ดูเตร์เตเป็นการระบายอารมณ์ต่อการประณามจากโลกตะวันตก แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงยังต้องรอดู
วันเดียวกัน นายโรดริโก ดูเตร์เตกล่าวที่กรุงฮานอยว่า ฟิลิปปินส์จะปฏิบัติตามสนธิสัญญาว่าด้วยการร่วมกันป้องกันประเทศสหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์ที่ได้ลงนามเมื่อปี 1951 โดยจะรักษาความสัมพันธ์พันธมิตรกับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง แต่เขาอยากจะตั้งพันธมิตรทางธุรกิจและการค้าใหม่ แต่พวกคุณเรียกร้องให้จัดการซ้อมรบอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนไม่อยากจะเห็น เขายังกล่าวว่า นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯจัดการซ้อมรบร่วมกัน
ท่าทีนี้จะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการจัดซ้อมรบร่วมระหว่างฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ ไม่ถึง 10 วัน ซึ่งการซ้อมรบครั้งนี้จะจัดขึ้นในหลายฟื้นที่ของฟิลิปปินส์ในระหว่างวันที่ 4– 12 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ ครั้งแรกหลังนายโรดริโก ดูเตร์เตดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เป็นต้นมา
ท่าทีที่เป็นเอกลักษ์พิเศษของนายโรดริโก ดูเตร์เตทำให้จัดกระแสความสนใจอย่างสูงจากภายนอก ทำให้ผู้นำระดับสูงของฟิลิปปินส์คลายกังวลจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ
นายเฮอร์โมเกเนส เอสเปรอน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์กล่าวว่า เขาอธิบายอะไรไม่ได้มากในขณะนี้ แต่ตามความเข้าใจของเขา ความหมายของนายโรดริโก ดูเตร์เตคือ การซ้อมรบร่วมกันครั้งนี้เป็นการซ้อมรบร่วมกันระหว่างฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯ ครั้งนี้จะเป็นสุดท้ายในปีนี้ทางการจะอธิบายต่อไป
ส่วนนายเปอร์เฟคโต ยาเซย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวโดยตรงว่า เขาไม่ได้ยิน ดังนั้น จึงวิจารณ์ไม่ได้ และเขาไม่เชื่อว่าประธานาธิบดีจะพูดแบบนี้
In/kt