เรื่องนี้นอกจากมีสมาชิกครอบครัวร้องขอความยุติธรรมให้จับผู้ต้องหาลงโทษตามกฎหมายแล้ว ยังทำให้ภาคเอกชนฟิลิปปินส์มีการต่อต้านสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยเรียกร้องให้ยกเลิกสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางการทหารระหว่างสหรัฐฯ กับฟิลิปปินส์ ภาคเอกชนฟิลิปปินส์กำหนดวันที่ 24 ตุลาคมเป็น "วันปฏิบัติการทั่วโลก"เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับนายเลาเด ด้วยการจัดการเดินขบวนที่เมืองโอลอนกาโป เมืองเกิดเหตุ และจัดการชุมนุมประท้วงที่สำนักงานใหญ่กองกำลังติดอาวุธฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายโจเซฟ สก๊อต เพมเบอร์ตัน ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ โดยเรียกร้องให้ส่งตัวมาให้ฝ่ายฟิลิปปินส์กักบริเวณ หมู่คณะภาคเอกชนและสมาชิกรัฐสภาบางคนก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกข้อตกลงเกี่ยวกับการเยือนซึ่งกันและกันระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯ
การเสียชีวิตของผู้แปลงเพศชาวฟิลิปปินส์ผู้นี้สงสัยว่าถูกทหารสหรัฐฯที่เข้าร่วมการซ้อมรบสังหารที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองโอลอนกาโปเมื่อค่ำวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุแล้ว ฟิลิปปินส์ได้พุ่งเป้าไปที่นายทหารรายนี้ทันที ฝ่ายสหรัฐฯ แม้จะแสดงท่าทีจะร่วมมือกันและกักบริเวณทหารนายนี้อยู่กองบัญชาการทหารติดอาวุธฟิลิปปินส์ และห้ามออกนอกประเทศฟิลิปปินส์ แต่ความร่วมมือดังกล่าวไม่มีความจริงใจอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งมอบผู้ต้องหาให้ฝ่ายฟิลิปปินส์ไต่สวนและไม่เคยเข้าร่วมการประชุมรับฟังข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการสำรวจที่จัดขึ้นโดยฟิลิปปินส์แม้แต่ครั้งเดียว จนทำให้ชาวฟิลิปปินส์ไม่พอใจและต่อต้านสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านจำนวนหนึ่งชุมนุมกันที่กรุงมะนิลา เรียกร้องความยุติธรรม และให้ยกเลิกข้อตกลงฯ วันเดียวกัน สมาชิกของผู้ถูกสังหารยังบุกเข้าสำนักงานกองบัญชาการใหญ่เพื่อประท้วง นอกจากนี้ นายมิเรียม เดเฟนเซอร์ ซานเตียโก ประธานคณะกรรมการทางการทูตของวุฒิสภาฟิลิปปินส์ก็ได้เรียกร้องให้ยกเลิกสนธิสัญญาเกี่ยวกับการเยือนระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯที่ไม่เสมอภาคอีกครั้ง
(Yim/Ping)