สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า หลายวันมานี้ กระแสความไม่พอใจประธานาธิบดีปาร์ก กึน เฮ ภายในประเทศเกาหลีใต้จากกรณีอื้อฉาวทางการเมืองนับวันรุนแรงขึ้น ท่ามกลางเสียงประท้วงอย่างหนักจากประชาชนทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศปรับคณะรัฐมนตรี แต่พรรคฝ่ายค้านออกมาคัดค้าน โดยอ้างว่า ประธานาธิบดี ปาร์ก กึน เฮไม่ได้ปรึกษากับพรรคฝ่ายค้านกรณีปรับคณะรัฐมนตรี

สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ประธานาธิบดีปาร์ก กึน เฮแต่งตั้งนายคิม บยอง จอน ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นอกจากนี้ ยังแต่งตั้งนายฮัน กวางอ๊กให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบประธานาธิบดี ต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน นายคิม บยอง จอนนายกรัฐมนตรีคนใหม่กล่าวกับสื่อมวลชนว่า จะหารือกับสมาชิกรัฐสภา นักการเมืองทั้งจากพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านในทุกเรื่อง รวมทั้งการปรับคณะรัฐมนตรีด้วย ขณะนี้ มีกระแสมีความไม่พอใจประธานาธิบดีอย่างหนัก ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ รัฐสภา และพรรคการเมือง ซึ่งรวมทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านจึงเป็นกำลังที่ต้องพึ่งพาของรัฐ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งกลไกสำหรับการปรึกษาหารือในกิจการด้านต่างๆ ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่เป็นกลางจากกลไกดังกล่าว

นายคิม บยอง จอน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และนายฮัน กวางอ๊ก หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบประธานาธิบดีเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอดีตประธานาธิบดีคิม แดจุง และอดีตประธานาธิบดีโน มู ฮยอน สื่อมวลชนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่า การที่ประธานาธิบดี ปาร์ก กึน เฮ แต่งตั้งนายคิม บยอง จอน เป็นนายกรัฐมนตรี และนายฮัน กวางอ๊ก เป็นหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบประธานาธิบดีนั้น มีเป้าประสงค์ที่จะแสดงให้ประชาชนเห็นว่า เธอกำลังเร่งจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่เป็นกลาง แต่กรณีนี้ถูกพรรคฝ่ายค้านคัดค้านเช่นกัน พรรคฝ่ายค้านบางส่วนกล่าวกับสื่อมวลชนว่า การปรับคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีปาร์ก กึน เฮทำให้ประชาชนรู้สึกผิดหวัง เพราะเธอประกาศปรับคณะรัฐมนตรีเพียงโดยลำพัง โดยไม่ยอมปรึกษากับพรรคฝ่ายค้านในกรณีดังกล่าว รูปแบบการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของประธานาธิบดีแสดงให้เห็นว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ไม่ได้ให้นายกฯมีอำนาจเต็ม และก็ไม่ใช่คณะรัฐมนตรีที่เป็นกลาง ด้วยเหตุนี้ พรรคฝ่ายค้านจึงต้องใช้มาตรการบางอย่างต่อต้าน

สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า การปรับคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีปาร์ก กึน เฮไม่เพียงแต่ไม่ได้บรรเทาความไม่พอใจของประชาน แต่กลับทำให้วิกฤตทางการเมืองทรุดหนักยิ่งขึ้น พรรคฝ่ายค้านบางส่วนถึงกับเรียกร้องให้ถอดถอนประธานาธิบดี ปาร์ก กึน เฮ ออกจากตำแหน่งโดยเร็ว

(IN/cai)