เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การประชุมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP ครั้งที่ 22 เริ่มต้นขึ้นที่เมืองมาราเกช ทางภาคใต้ของโมร็อกโก นับเป็นการประชุมที่เน้นหารือการปฏิบัติอย่างจริงจังครั้งแรกภายหลังความตกลงกรุงปารัสมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
ผู้ร่วมประชุมจากกว่า 190 ประเทศและเขตแคว้นจะจัดการประชุใหญ่และการประชุมย่อยเพื่อหารือรายละเอียดการปฏิบัติตามความตกลงกรุงปารีส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศโมร็อกโกกล่าวในพิธีเปิดว่า เราจะกำหนดข้อกำหนดอย่างไรเพื่อให้ความตกลงกรุงปารีสได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจังนั้นจะเป็นประเด็นหลักในที่ประชุมครั้งนี้ เขากล่าวว่า การประชุมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 21 และ 22 เกี่ยวข้องกับอนาคตของมวลมนุษย์ การประชุมฯ ครั้งที่ 21 ได้กำหนดแผนการและมาตรฐานให้กับรัฐบาลต่างๆ ไว้แล้ว ส่วนเป้าหมายของการประชุมฯ ในครั้งนี้คือสร้างกลไกให้ผู้ลงนามทั้งหลายปฏิบัติตามแผนการและมาตรฐานดังกล่าว นี่คือภารกิจของเราที่ต้องทำและรับผิดชอบเพื่อลูกหลานของเรา และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว มอร็อกโกจะร่วมมือกับทีมงานที่ประชุมผลักดันการหารือและการเจรจาระหว่างฝ่ายต่างๆ อย่างเปิดเผยและโปร่งใส ส่งเสริมกิจการและความร่วมมือต่างๆ ด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เดือนธันวาคมปี 2015 ผู้แทนจาก 197 ประเทศและเขตแคว้นได้ร่วมลงนามบรรลุความตกลงกรุงปารีส ซึ่งมีความหมายสำคัญยิ่ง ความตกลงกรุงปารีสเป็นความตกบวตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลบังคับใช้ด้านกฎหมายฉบับที่ 2 ต่อจากสนธิสัญญากรุงเกียวโต ซึ่งได้กำหนดมาตรการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลังปี 2020 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือควบคุมการปล่อยแก๊สเรือนกระจกให้บรรลุเป้าหมายอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงกว่าก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม 2 องศา และพยายามให้การเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิต่ำกว่า 1.5 องศา
(Toon/cici)