视频/泰国/图书/芈月传
|
กรุงเทพฯ – แฟนซีรีย์และนิยายจีนได้กรี๊ดและเฮเสียงดังในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปีนี้ เพราะว่านิยายจีนชุด "หมี่เยวี่ยจอมนางพลิกบัลลังก์"เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แถมยังมีเซอร์ไพรส์ให้แฟนๆด้วยการเชิญผู้เขียนชาวจีน ตัวจริงเสียงจริง อาจารย์เจี่ยงเซิ่งหนาน (蒋胜男)มาร่วมพูดคุยและพบปะมิตรรักผู้อ่านชาวไทยเมื่อวันที่ 5 เมษายน2559 ณ แพลนเนอรี่ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
"หมี่เยวี่ยจอมนางพลิกบัลลังก์"เป็นนิยายจีนเชิงประวัติศาสตร์ที่ถูกนำมาสร้างเป็นละครซีรี่ย์ที่แฟนๆ ณ จีนแผ่นดินใหญ่ติดกันอย่างงอมแงม เนื้อหาหญิงสาวนางหนึ่งในยุคสมัยแห่งการช่วงชิงความเป็นใหญ่ที่แพ้ชนะตัดสินในชั่วพริบตาบนเส้นทางที่ต้องหลั่งเลือดและน้ำตาแม้แต่ยอดบุรุษนับพันหมื่นยังมิอาจก้าวฝ่าแต่นางสามารถก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์เป็นยอดสตรีผู้ทรงอำนาจที่สุดแห่งยุคจ้านกั๋วและเป็นบรรพบุรุษแห่งจิ๋นซีฮ่องเต้-มหาจักรพรรดิผู้เกรียงไกร
สำหรับนักเขียนคนหนึ่งแล้ว คงไม่มีอะไรที่จะน่าดีใจไปกว่าการที่ผลงานตัวเองได้มีคนเห็นคนอ่านมากมาย อาจารย์เจี่ยงก็เช่นกัน เธอกล่าวว่าต้องขอบคุณที่ได้เกิดในยุคที่มีเทคโนโลยีทำให้คนติดต่อกันอย่างง่ายดาย ฐานผู้อ่านก็ขยายวงกว้างขึ้น อย่างเช่นตอนนี้นิยายของเธอก็ถูกแปลเป็นภาษาไทย ทำให้แฟนๆของหมี่เยวี่ยไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่ในหมู่คนรู้ภาษาจีนเท่านั้น
การมาเมืองไทยครั้งนี้ อาจารย์เจี่ยงได้ไปเที่ยวที่จังหวัดอยุธยาได้เห็นเมืองเก่าของไทยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ด้วยตาของตนเอง เธอเล่าว่าเธอได้เห็นเศียรพระพุทธรูปที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ เศียรนั้นเป็นร่องรอยจากอดีตแต่ใบไม้เขียวๆรอบนั้นก็เป็นต้นไม้ที่เกิดขึ้นใหม่ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าของเก่ากับของใหม่ก็สามารถอยู่ในสมัยเดียวกันได้ เปรียบได้กับตัวละครในนิยายของเธอ
เนื่องจากตัวละครหลักของนิยายที่เธอเขียนจะเป็นผู้หญิงในสมัยโบราณ อาจจะมีหลายคนคิดว่าทำไมผู้หญิงในยุคปัจจุบันถึงได้สนใจชีวิตของผู้หญิงที่อยู่ในอดีต แต่เธอเชื่อว่าผู้หญิงไม่ว่าจะเกิดในยุคสมัยใดก็มีส่วนที่คล้ายคลึงกันอยู่ และสำหรับนักอ่านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็นิยมอ่านเพื่อความบันเทิง และมองหาอะไรบางอย่างในหนังสือที่คล้ายคลึงกับตนเองมาเปรียบเทียบเสมอ
สำหรับเหตุผลว่าทำไมเลือก "หมี่เยวี่ย" มาเขียน เพราะชื่อของหมี่เยวี่ยไม่ได้โด่งดังและเป็นที่รู้จักเหมือนตำนานคนอื่นๆ อาจารย์เจี่ยงตอบว่าหมี่เยวี่ยเกิดในสมัยก่อนฉินรวมจีนเป็นหนึ่งเดียวกันซึ่งในช่วงนั้นมีวัฒนธรรมหลายอย่างมากมาย
"หมี่เยวี่ย" เป็นตัวแทนคนในอดีตไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้นๆ ปัจจุบันนักเรียนที่เมืองจีนยังต้องเรียนกลอนเรียนบทกวีในสมัยนั้น นวนิยายเรื่องนี้เขียนก็ถึงสมัยนั้น เด็กอาจจะมีความรู้สึกสนใจจะอ่านมากขึ้นเพราะมีความคุ้นเคย เหตุผลที่เขียนเพราะข้อหนึ่งการเป็นนักเขียนหญิงได้เขียนถึงตัวละครที่เป็นหญิงเหมือนกันก็น่าจะมีความเข้าใจในความรู้สึกได้อย่างไม่ยากนัก ข้อสองที่จีนยังมีนักเขียนที่เขียนถึงผู้หญิงในประวัติศาสตร์จีนน้อยอยู่มาก และข้อสุดท้ายคือคิดว่าผู้หญิงในยุคปัจจุบันน่าจะมีความต้องการอ่านหนังสือแนวนี้ ในสายตาคนทั่วไปอาจมองผู้หญิงเป็นแค่ภรรยาที่ดีหรือไม่ดีเท่านั้น ไม่ได้มองเธอในแง่มุมที่แตกต่างออกไป ผู้เขียนอยากให้รู้ว่าผู้หญิงก็มีอะไรที่ "มากกว่า" นั้น
ด้านคุณสิทธิเดช แสนสมบูรณ์สุขหรือคุณต่อ บรรณาธิการสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์เปิดใจถึงเหตุผลที่เลือกเรื่องนี้มาแปลและจัดพิมพ์ว่า สำหรับนักอ่านคนไทย นิยายชุด "หมี่เยวี่ยจอมนางพลิกบัลลังก์"น่าสนใจตรงที่ คำว่า"ไทเฮา"หรือ(ไท่โฮ่ว ภาษาจีนกลาง) เราได้ยินคำนี้บ่อยแล้วแต่ไม่รู้ที่มา ถ้าอ่านเรื่องนี้แล้วจะเข้าใจว่าที่มามันเป็นอย่างไร และนิยายที่เขียนถึงสมัยยุคจ้านกั๋วในไทยน่าจะแทบไม่มีเลย ส่วนเรื่องสุดท้ายคือการประลองความคิดของตัวละครต่างๆในเรื่อง ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องความรัก แต่การชิงไหวชิงพริบในเรื่องก็สนุกและน่าติดตาม เชื่อว่านักอ่านไทยจะต้องชอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ช่วงที่นิยายเรื่องนี้ออกในจีนใหม่ๆคนจีนส่วนใหญ่แปลกใจเพราะตัวอักษรนี้芈 (หมี่) คนจีนแทบไม่รู้จักแทบไม่ได้ใช้แล้ว อักษร芈 (หมี่) แซ่กษัตริย์ของรัฐฉู่ซึ่งหลังๆก็ไม่มีคนใช้นามสกุลนี้อีกต่อไป อาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีนิยายชุดออกมาคนจีนก็ได้รู้จัก เข้าใจรวมถึงสนใจวัฒนธรรมของตนเองมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับอาจารย์เจี่ยงเซิ่งหนาน นักเขียนจากเจ้อเจียงผู้นี้ เธอไม่ธรรมดาตั้งแต่ชื่อเพราะชื่อของเธอในภาษาจีนแปลว่า"มีชัยชนะเหนือบุรุษ"เธอเป็นนักเขียนฝีมือดีที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงที่สำคัญในประวัติศาสตร์มากมายซึ่งใครสนใจสามารถติดตามผลงานของเธอได้นวนิยายเรื่องหมี่เยวี่ยนี้เธอใช้เวลาถึง 7 ปีตั้งแต่เริ่มเขียนและค้นหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพื่อนำมาใช้สำหรับการเขียน ส่วนที่ยากที่สุดของนิยายคือความเหมือนจริงทางประวัติศาสตร์ เช่นเรื่องอาหารการกิน การแต่งตัว ความคิด เนื่องจากเป็นช่วงที่ย้อนไปสองพันปีก่อนหน้าซึ่งสมัยนั้นเขากิน ดื่มอะไร ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้มาจากการจินตนาการแต่มาจากการค้นคว้าเพื่อให้สมจริงที่สุด นิยายแปลไทยโดยดารินทิพย์เรื่องล่าสุดชุด"หมี่เยวี่ยจอมนางพลิกบัลลังก์"มีทั้งหมด 11 เล่มให้นักอ่านชาวไทยได้ติดตามและสะสมค่ะ
เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์อรุณเอก林敏儿
ภาพ: พันธสัญญาโชติธนพุทธิพงษ์