ในกระบวนการพัฒนาของเศรษฐกิจจีน เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการพัฒนาดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำจูเจียง เขตเมืองใหม่ผู่ตงของนครเซี่ยงไฮ้ เป็นกำลังนำร่องให้ดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำฉางเจียงเจริญขึ้น ส่วนกรุงปักกิ่ง ในฐานะเป็นเมืองหลวงของจีน ซึ่งแบกรับภารกิจต่างๆมากมายมาโดยตลอด ไม่ได้นำเขตพื้นที่โดยรอบพัฒนาไปพร้อมกัน หากยังดึงทรัพยากรต่างๆจากเขตรอบข้างมากมาย ถึงปัจจุบัน เมื่อเทียบกับกรุงปักกิ่ง ท้องที่อื่นๆในเขตปักกิ่ง-เทียนสิน-เหอเป่ยยังมีช่องว่างการพัฒนามากมาย ส่วนกรุงปักกิ่งก็ต้องประสบปัญหาร้ายแรงต่างๆ รวมถึง การจราจรติดขัด หมอกควัน และราคาบ้านสูงเกินไป เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจีนจึงตกลงตั้งเขตเมืองใหม่สงอันขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระส่วนหนึ่ง ซึ่งเมืองหลวงมีอยู่แต่ไม่ควรจะมี จะได้สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่แก่การพัฒนาเขตปักกิ่ง-เทียนสิน-เหอเป่ย
สิ่งที่น่าสังเกตคือ ในภารกิจสำคัญ 7 ประการที่นายสี จิ้นผิงกำหนดให้เขตเมืองใหม่สงอันนั้น มีประการหนึ่งคือ พัฒนากิจการนิวไฮเทค โดยเฉพาะสั่งสมทรัพยากรและปัจจัยเชิงนวัตกรรม ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เขตเมืองใหม่สงอันอาจกลายเป็น "เมืองแห่งนวัตกรรม" ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ในการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในอนาคต
ในสหรัฐฯ กรุงวอชิงตัน นครนิวยอร์ก กับซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) ต่างมีสถานะที่ชัดเจน วอชิงตันเป็นเมืองหลวง นิวยอร์กเป็นศูนย์เศรษฐกิจและการเงิน ส่วนซิลิคอน วัลเลย์เป็นศูนย์นวัตกรรม ในอิสราเอล กรุงเทล อาวีฟเป็นเมืองหลวง ส่วนไฮฟาเป็นศูนย์นวัตกรรม ในญี่ปุ่น กรุงโตเกียวเป็นเมืองหลวง และห่างจากกรุงโตเกียว 50 กิโลเมตรมีเมือง Tsukuba ซึ่งเป็นเมืองวิทยาศาสตร์และเป็นศูนย์การพัฒนานิวไฮเท็คของญี่ปุ่น
ปัจจุบัน นครเซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการเงินที่ชัดเจน ส่วนปักกิ่งในฐานะเป็นเมืองหลวง แบกรับภารกิจมากเกินไป ซึ่งไม่ควรจะมีในเมืองหลวง ขณะเดียวกัน จีนยังขาดแคลนศูนย์นวัตกรรม ด้วยเหตุนี้ หลังจากรวบรวมกิจการนิวไฮเทคระดับแนวหน้าแล้ว เขตเมืองใหม่สงอันมีหวังจะกลายเป็นศูนย์นวัตกรรมอย่าง Silicon Valley และไฮฟา
มองจากทั่วโลก การพัฒนากิจการนิวไฮเทคต้องได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการศึกษา อย่างเช่น ในเขต Silicon Valley มีมหาวิทยาลัยที่โด่งดังทั่วโลกหลายแห่ง รวมถึงมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย เป็นต้น ส่วนเมืองบอสตันกำลังกลายเป็น "Silicon Valley ที่ 2" เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ดังนั้น การสร้างเขตเมืองใหม่สงอันให้เป็นเขตนำร่องนวัตกรรมนั้น ก็ต้องรวบรวมทรัพยากรด้านการศึกษาชั้นยอดของจีน รวมถึงมหาวิทยาลัยและหน่วยงานวิจัยวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของจีน
ในวันเดียวกันที่รัฐบาลออกประกาศตั้งเขตเมืองใหม่สงอัน เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสตร์จีนเมืองเซินเจิ้นได้เลื่อนตำแหน่งเป็นกรรมการประจำคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสตร์จีนมณฑลเหอเป่ย ทั้งนี้ก็คงยืนยันท่าทีของรัฐบาลกลางได้อีกว่า เขตเมืองใหม่สงอันเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษระดับชาติแห่งที่ 3 โดยเป็นคู่แข่งกับเมืองเซินเจิ้นและเขตเมืองใหม่ผู่ตง การตั้งเขตเมืองใหม่ดังกล่าว นับเป็น "ยุทธศาสตร์พันปี" และ "งานใหญ่ของชาติ"
