หมู่บ้านหงซานเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงมากทั้งในเขตฮวาตูและเมืองกว่างโจว มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากในช่วงตรุษจีน วันหยุดสุดสัปดาห์ และช่วงปิดเทอม โดยเฉพาะชาวเมืองที่พาครอบครัวมาเที่ยวชนบทที่หมู่บ้านแห่งนี้ ทั้งนำชมไม้นานาพันธุ์ ทั้งรับประทานอาหารชาวนาที่ต่างกับในเมือง เช่น ผัดใบมันเทศ ซึ่งไม่ค่อยมีจำหน่ายในเมือง รวมถึงฝีมือพ่อครัวชาวนาที่ต่างกับพ่อครัวในภัตตาคารตามหัวเมืองใหญ่ต่างกันยังไง? ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีผู้ประกอบร้านอาหารเกือบ 20 ราย บางรายเปิดเป็นโรงแรมแบบโฮมสเตย์ด้วย คือ ประดับตกแต่งบ้านเปิดรับนักท่องเที่ยวมาอยู่ ราคาจะต่างกันตั้งแต่ 100 หยวนถึงหลายร้อยหยวน แล้วแต่จะเลือก

ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอเดินเที่ยวหมู่บ้านหงซาน ที่ทุ่งนามีข้าวกำลังออกรวง และย้อนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมจะเป็นทุ่งคาโนล่าเหลืองอร่าม เรียกความสนใจของนักท่องเที่ยวมาก

จากนั้นถึงบริเวณที่มีมีแม่ค้าพ่อค้าขายของก็หยุดชม เลือกน้ำเต้าฮู่ข้น (Tofu Jelly) ราคาถ้วยละ 3 หยวน ส่วนขนม "ฉาวหมีปิ่ง" (炒米饼) มีสองชนิด คือ ชนิดถั่วลิสง กับชนิดงาดำ สีต่างกัน ราคาก็ต่างกัน ชนิดถั่วลิสงกิโลละ 24 หยวน (120 บาท) ชนิดงาดำกิโลละ 30 หยวน (150 บาท) ขนม "ฉาวหมีปิ่ง" ทั้งสองอย่างนี้มีตัวหนังสือสิริมงคลสลักไว้ด้วย คือ ชนิดถั่วลิสงมีคำว่า "ฝู" (福, วาสนา) และชนิดงาดำมีคำว่า "ว่าง" (旺, รุ่งเรือง) รวมกันแล้วแปลว่ามีวาสนารุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้น จึงเลือกซื้ออย่างละหนึ่งกิโลเพื่อนำกลับมาให้เพื่อนๆ ในกรุงปักกิ่งชิมด้วยกัน แต่ก่อน ขนม "ฉาวหมีปิ่ง" ชาวนาจะทำเองเพื่อต้อนรับตรุษจีน แต่สมัยนี้ชาวนาไม่ค่อยทำกันแล้ว จะมีจำหน่ายในตลาดและในเฉพาะช่วงตรุษจีนเท่านั้น คราวนี้ได้เห็นขนมนี้นอกช่วงตรุษจีน จึงรู้สึกแปลกมาก แต่ก็ถือว่าเป็นของฝากที่มีนัยยะมงคลและเป็นของพื้นเมืองแท้จากชนบท

นอกจากน้ำเต้าฮู่ขนและขนม "ฉาวหมีปิ่ง" ที่เลือกซื้อแล้ว ยังเห็นนักท่องเที่ยวอื่นๆ นั่งพักผ่อนและทานของว่างต่างๆ เช่น ขนมเข่ง ถั่วลิสง รวมถึงเลือกซื้อของหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย

จากนั้นได้เห็นบึงที่มีเก๋งจีน สะพานทอดเลี้ยวคดเคี้ยว บัวกำลังบานสะพรั่งกลางบึง จุดนี้ชื่อว่า "หงหูชุนเซ่อ" (红湖春色, Spring of Red Lake) เป็นใจกลางของหมู่บ้านแห่งนี้ สามารถทอดน่องตามบึงหรือลงเดินสะพานชมวิวโดยรอบได้ รู้สึกชื่นใจ หายใจลึกสู่ช่วงท้อง

(IN/LING)