เมื่อเร็วๆ นี้ รายงานของบริษัท McKinsey & Company ระบุว่า ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศใหญ่ด้านดิจิตอลที่ทั่วโลกยอมรับ และกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างดิจิตอลของโลก ทั้งได้สนับสนุนการพัฒนาของนักธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้คน เมื่อหลายสิบปีก่อน จีนยังเป็นประเทศยากจน ผู้นำจีนต้องพยายามดำเนินการปฏิรูปเปิดประเทศสู่ภายนอก เพื่อให้เศรษฐกิจพัฒนา ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น และมีโอกาสรับรู้ว่า โลกนี้กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
เมื่อเปิดประเทศแล้ว ชาวจีนรู้สึกตื่นเต้น โลกภายนอกมีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ตัวผมเองกำลังเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยในกรุงปักกิ่ง เมืองใหญ่อันดับ 2 ของจีน เวลานั้น ชาวจีนส่วนใหญ่ยังใช้จักรยานในการเดินทาง แต่ประชาชนประเทศตะวันตกใช้รถยนต์ส่วนตัว ใช้เครดิตการ์ตจับจ่ายซื้อของ ใช้โทรศัพท์มมือถือคุยกัน น่าสนใจมาก ผมถามตัวเองว่า เมื่อไหร่จะสามารถใช้ของดีเหล่านี้
เวลาผ่านไปเพียง 20 กว่าปี ขณะนี้ เมืองใหญ่ต่างๆ ในจีน อาทิ กรุงปักกิ่งรถติดเป็นประจำ ต้องออกนโยบายจำกัดการซื้อรถยนต์ในแต่ละปี ที่บ้านมีสมาร์ทโฟนหลายเครื่องที่ยังใช้ได้ แต่ทิ้งไว้บนโวฟาไม่ได้ใช้ เพราะขณะนี้เปลี่ยนรุ่นใหม่เป็นหัวเหวย พี-10 แล้ว เป็นรุ่นทันสมัยที่สุดพอๆ กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สุดของแอปเปิล ส่วนเครติกการ์ด ขอโทษที่ผมมีหลายใบหลายธนาคาร แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้เลย คนจีนเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ใช้มือถือจ่ายเงิน อย่างเช่นอาลีแพย์ หรือวีแชต ง่ายมากทีเดียว แถมไม่ต้องเซ็นชื่อด้วย
กล่าวได้ว่า เมื่อเทียบกับ 20 ปีก่อน ประเทศจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง วิถีการใช้ชีวิตของชาวจีนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ของบริษัทให้คำปรึกษา McKinsey & Company ของสหรัฐฯ ประกาศรายงาน "เศรษฐกิจดิจิตอลของจีนสร้างแนวโน้มทั่วโลกอย่างไร" โดยระบุว่า ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศใหญ่ด้านการลงทุนและประยุกต์ใช้ดิจิตอลในระดับนำหน้าของโลก ประสบผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวงมากมาย มากกว่าการคาดการณ์ของผู้คนส่วนใหญ่
