นอกจากจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและประชาสัมพันธ์แล้ว ผู้สื่อข่าวทั้งจีนและไทยที่เดินทางพร้อมไปกับคาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวล้านช้าง-แม่น้ำโขง ยังร่วมกันทำการศึกษาด้านวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้งตลอดการเดินทางภายในประเทศจีน เมื่อขบวนรถเดินทางถึงเมืองฉาวโจว(แต้จิ๋ว) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเล บรรดานักข่าวได้ไปเยี่ยมชมสะพานกว่างจี้ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 สะพานโบราณเลื่องชื่อของจีน ร่วมกับสะพานเจ้าโจวในมณฑลเหอเป่ย สะพานลั่วหยางในมณฑลฝูเจี้ยน และสะพานหลูโกว(สะพาน Marco Polo)ในกรุงปักกิ่ง
สะพานกว่างจี้ สร้างขึ้นมานานกว่า 800 ปีแล้ว ประกอบด้วยสะพานโค้ง 24 ช่วงกับสะพานลอยน้ำ 18 ช่วง เป็นสะพานประกอบลักษณะนี้เพียงแห่งเดียวในประวัติศาสตร์จีน ได้รับการชื่นชมจากเหมา อี่เซิง ผู้เชี่ยวชาญด้านสะพานของจีนว่าเป็น "สะพานเปิด-ปิดได้ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก" เป็นสะพานเชื่อมมณฑลกว่างตงกับฝูเจียนตั้งแต่สมัยโบราณ
หลังจากเดินทางถึงเมืองโฝซาน สมาชิกในกองคาราวานรถได้ร่วมเยี่ยมชมเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่ง ชื่อ หนานเฟิงกู่เจ้า (南风古灶) แม้ว่าเมืองกว่างโจวจะเป็นเมืองท่าส่งออกเครื่องปั้นดินเผาก็จริง แต่เตาเผาส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโฝซาน ทุกวันนี้ ที่นี่ยังคงใช้วิธีการเผาฟืนผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สืบทอดจากโบราณกาล เตาเผาเก่าแก่ที่ยังใช้งานได้จึงกลายเป็น "โบราณวัตถุที่ยังมีชีวิต"
ต่อจากนั้น บรรดาสมาชิกเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศาลเจ้าบรรพชนในตัวเมือง หอรำลึกปรมาจารย์หวงเฟยหง หอรำลึกปรมาจารย์เย่เวิ่น ซึ่งเป็น 2 นักกังฟูผู้ยิ่งใหญ่ของจีน ซูเปอร์สตาร์ด้านกังฟูของจีนอย่าง "บรูซ ลี (Bruce Lee) ก็เป็นลูกศิษย์ของเย่เวิ่นด้วย นอกจากนี้ คณะคาราวานยังได้ชมการแสดงการเชิดสิงโตและวิทยายุทธ์จีนสำนักหวงเฟยหง รวมถึงการแสดงงิ้วกว่างตง ที่เป็นตัวแทนศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองกว่างตงอีกด้วย