นอกจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐแล้ว ในภาคเอกชนก็มีการช่วยส่งเสริมการพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่อย่างดีเช่นกัน โดยบริษัทเครือข่ายไฟฟ้าแห่งชาติจีน (国家电网) ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างสถานีเติมไฟ 10,000 แห่ง เครื่องเติมไฟ 120,000 เครื่องในปี 2020 เพื่อสร้างเครือข่ายเติมไฟฟ้าสาธารณะภายในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตรได้อย่างสะดวกสบายในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองหางโจว เป็นต้น

กรุงปักกิ่งได้ประกาศ "ข้อเสนอเกี่ยวกับการบริหารและการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกการเติมไฟของรถยนต์พลังงานใหม่" โดยกำหนดสัดส่วนพื้นที่จอดรถเติมไฟฟ้าในลานจอดรถต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งในลานจอดรถของอาคารสำนักงานต้องมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 25% ลานจอดรถของอาคารพาณิชย์ เช่น ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต และลานจอดรถสาธารณะทั่วไป จะต้องไม่ต่ำกว่า 20% ส่วนลานจอดรถสาธารณะในโรงเรียนหรือโรงพยาบาล เป็นต้น ต้องไม่ต่ำกว่า 15%

นักวิเคราะห์เห็นว่า การกำหนดสัดส่วนที่จอดรถเติมไฟฟ้าในลานจอดรถสามารถช่วยวางแผนอนาคตของเมืองและกระตุ้นการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้สอดคล้องกับการใช้งานมากขึ้น พิจารณาโดยภาพรวมแล้ว ในปัจจุบัน จีนมีความต้องการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

และเห็นว่า นโยบายด้านพลังงานใหม่ของจีน ที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการเพิ่มและลด คือเพิ่มเงินอุดหนุนช่วยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และลดเงินช่วยเหลือในการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ อันเนื่องจากสภาพการณ์ในปัจจุบันที่มีจำนวนการใช้งานรถยนต์พลังงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เครื่องเติมไฟฟ้าไม่พอเพียง ปัจจุบัน กว่า 30 มณฑลและเมืองทั่วประเทศจีน ต่างออกนโยบายช่วยสร้างเครื่องเติมไฟฟ้า

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังระบุว่า การสร้างและงานบำรุงรักษาเครื่องเติมไฟฟ้า ก็กำลังเผชิญกับปัญหาหลายอย่าง เช่น ต้นทุนการดูแลรักษาค่อนข้างสูง ต้องการแรงงานค่อนข้างมาก มีจำนวนเครื่องเติมไฟฟ้าขัดข้องค่อนข้างมาก จำนวนเครื่องเติมไฟฟ้ายังไม่พอเพียงต่อความต้องการของผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า การขาดแคลนการบริการด้านการเติมไฟฟ้า และลานจอดรถเติมไฟฟ้าบางแห่งอยู่ไกลจากย่านชุมชนที่พักอาศัยของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้เครื่องเติมไฟฟ้าเหล่านี้มีอัตราการใช้งานค่อนข้างต่ำ เป็นต้น แม้ว่าบริษัทต่างๆ กำลังเร่งสร้างเครื่องเติมไฟฟ้า แต่อนาคตของแวดวงนี้ยังไม่แน่นอน

แต่ว่ารัฐบาลจีนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างชัดเจน และมีความแน่วแน่ในนโยบายเกี่ยวกับเครื่องเติมไฟฟ้าอย่างเต็มที่ พร้อมจะใช้มาตรการต่างๆ สนับสนุนการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเติมไฟฟ้า ในอนาคต การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเติมไฟฟ้ายังต้องการรัฐบาลสนับสนุนและเสนอเงินช่วยเหลือ ในขณะเดียวกัน ภาคเอกชนก็ควรรับผิดชอบในการสร้างและการบริหาร รักษาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ดี เพื่อให้ตลาดพัฒนาอย่างมั่นคงและมีระเบียบ