ในภาคเหนือของจีน หลังจากเทศกาลเสียวเสวี่ย ที่หมายถึงว่าเริ่มมีหิมะตกแล้ว ชาวสวนจะเริ่มตัดกิ่งต้นผลไม้ และนำฟางต้นข้าวโพดมาห่อต้นผลไม้ เพื่อไม่ให้หนาวตาย ส่วนผักที่เก็บมาแล้วก็ต้องหาที่เก็บไว้ บางทีจะขุดหลุมฝังไว้ใต้ดิน โดยเฉพาะการเก็บผักกาดขาว จะมีวิธีพิเศษ คือ ก่อนจะเก็บเกี่ยว จะหยุดรดน้ำผักประมาณ 10 วัน และเก็บผักกาดขาวในวันที่มีแสงอาทิตย์ดี พอดึงขึ้นจากดินแล้ว นำไปวางกับพื้น ให้รากผักกาดขาวถูกแดด 3-4 วัน จนใบข้างนอกสีซีดอ่อนลงแล้วค่อยเก็บลงหลุมดิน ซึ่งเวลาเก็บต้องเรียงเป็นแถว ให้รากอยู่ข้างล่าง ด้านบนก็ต้องปูใบผักกาดขาวหรือฟางต้นข้าวโพดไว้เพื่อกันความหนาว หากเป็นผักกาดขาวที่ยังโตไม่เต็มที่ ยังต้องวางน้ำในหลุมด้วย และใส่ดินเข้าไปหน่อย เหมือนกับย้ายผักกาดขาวไปปลูกในหลุมต่อไปนั่นเอง
เมื่อเข้าสู่เทศกาลเสียวเสวี่ยแล้ว บนพื้นดินจะถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง สมัยก่อน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้าน แต่ปัจจุบัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่หยุดพัก จะถือโอกาสนี้ทำปุ๋ยธรรมชาติ และนำฟางต้นข้าวโพดมาสานทำเป็นของใช้ต่างๆ นับเป็นการเพิ่มช่องทางหารายได้เสริม ซึ่งทางรัฐบาล ก็มีการจัดการอบรมความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแก่ชาวบ้าน เพื่อให้พวกเขามีความรู้ทางเทคนิคมากขึ้นและสามารถทำการเกษตรได้ดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญที่สุดคือ เนื่องจากย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว ชาวจีนส่วนใหญ่จะรับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์มากขึ้นเพื่อให้ร่างกายมีความอบอุ่น พอที่จะต่อต้านกับความหนาวข้างนอก
Yim/Ping